เชื่อว่าในปัจจุบันแทบทุกคนคงจะเคยได้ยินข่าวของแนวคิดเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงที่ล้ำไปอีกขั้นอย่าง “Metaverse” กันมาบ้าง เพราะนี่คือภาพลักษณ์ของ “อนาคต” ที่คุณ “มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” กำลังพยายามอย่างมากที่จะทำให้เป็นจริง
อย่างไรก็ตาม มันก็ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับแนวคิดของ Metaverse
เพราะอย่าง ล่าสุดนี้เองแม้แต่ คุณ “เคน คุทารากิ” อดีต CEO ของ Sony และชายผู้อยู่เบื้องหลังเครื่องเกมดังอย่าง PlayStation ก็เพิ่งจะออกมาให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า
เขานั้น ดูจะไม่เห็นด้วยกับแนวคิดอนาคตของ Metaverse เท่าไหร่นัก กลับกันเขามองว่าการสร้าง “หุ่นยนต์อัจฉริยะ” ต่างหาก ที่ดูจะเป็นอนาคตที่ดีกว่า
คุณคุทารากิ ให้เหตุผลที่เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดของ Metaverse ว่า สำหรับเขาแล้ว การที่คนเรายังคงจดจำว่าตัวเอง “อยู่ในโลกความเป็นจริง” ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก
ซึ่งทำให้เขาไม่เข้าใจว่าทำไมบางคนถึงต้องการจะเข้าไปในโลกเสมือนจริง
“คุณอยากเป็นอวาตาร์ที่ถูกขัดเกลาขึ้นมาแทนที่จะเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณเหรอ? แบบนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับเว็บไซต์กระดานข้อความที่ไม่ระบุตัวตนเลยสิ”
คุณคุทารากิกล่าว
นอกจากนี้ คุณคุทารากิยังบอกด้วยว่า ระบบฮาร์ดแวร์ของ Metaverse เองก็อาจจะไม่เข้ากับเป้าหมายการรวมโลกเสมือนจริง กับโลกแห่งความจริงด้วย
นั่นเพราะระบบการใช้เฮดเซ็ทนั้น เป็นเพียง “การสร้างสิ่งเสมือน” ใน “โลกเสมือนจริง” และมันอาจทำให้เกิดการแบ่งแยกโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกเสมือนด้วยซ้ำ
“เฮดเซ็ทจะแยกคุณออกจากโลกแห่งความเป็นจริง และผมไม่เห็นด้วยกับของพวกนี้เลย… (สำหรับผม)เฮดเซ็ทเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมากกว่า”
แต่การไม่อยากใส่เฮดเซ็ทหรือเข้าไปในโลกเสมือน ก็ดูจะไม่ใช่เหตุผลเดียวที่คุณคุทารากิ ไม่เห็นด้วยกับอนาคตในใจของ Metaverse นัก กลับกันดูเหมือนว่าเขาจะมีแนวคิดอนาคต และ “โลกเสมือนจริง” ของตัวเองอยู่แล้วมากกว่า
นั่นเพราะไม่เพียงแต่ในปัจจุบันคุณคุทารากิจะดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทหุ่นยนต์ The Ascent “แบบไม่รับเงิน” ภายใต้ความหวังที่จะ “ช่วยพัฒนาหุ่นยนต์ที่ชาญฉลาดและใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น” เท่านั้น
แต่ดูเหมือนว่าสำหรับเขาแล้ว “โลกเสมือนจริง” ในอุดมคติ จะมาจากการสร้างหุ่นยนต์อัจฉริยะ ซึ่งสามารถทำงานของมนุษย์ได้หลากหลาย ซึ่งรวมถึงการสามารถฉายโฮโลแกรมได้
เป็นการทำโลกเสมือนจริง มาไว้บนโลกแห่งความจริง มากกว่าที่จะเป็นการเข้าไปอยู่ในโลกเสมือน โดยทิ้งโลกแห่งความจริงไว้ภายหลังนั่นเอง
ที่มา bnnbloomberg, gameinformer และ bitcoin