เชื่อว่าหลายคนอาจได้ยินกันมาบ้าง ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีการสร้างใบหน้าของ AI ในปัจจุบันได้พัฒนาไปไกลจนยากที่จะแยกออกจากคนจริงแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็นำมาซึ่งปัญหาที่น่ากังวลไม่น้อยแบบเทคโนโลยี Deepfake มาก่อนแล้ว
แต่ล่าสุดนี้เองนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ก็เพิ่งจะออกมาเปิดเผยเรื่องราวน่ากังวลเรื่องใหม่ของเทคโนโลยีการสร้างใบหน้าอีกครั้ง เมื่อพวกเขาได้ค้นพบความจริงที่ว่า
ใบหน้าที่สร้างขึ้นจากโครงข่ายประสาทเทียมชื่อ StyleGAN2 นั้น ในปัจจุบันนอกจากจะสามารถสร้างใบหน้าที่แตกไม่ออกว่าเป็นของจริงหรือของปลอมแล้ว ใบหน้าของมันยังถูกมองว่า “น่าเชื่อถือ” กว่าหน้าคนจริงๆ เสียอีก
อ้างอิงจากข้อมูลที่มีกำหนดการตีพิมพ์ในวารสาร PNAS นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบความจริงอันน่าตกใจนี้ในการทดลองให้อาสาสมัครให้คะแนนความน่าเชื่อถือของรูปใบหน้าต่างๆ ตั้งแต่ 1-7 คะแนน และพบว่า
โดยเฉลี่ยแล้ว ใบหน้าที่สร้างขึ้นจาก AI จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าใบหน้าปกติ 7% (ชมภาพตัวอย่างรูปที่ได้คะแนนมากที่สุดและน้อยที่สุดได้ที่: www.pnas.org/content/pnas/119/8/e2120481119/F1.large.jpg)
ซึ่งตัวเลขนี้ แม้จะไม่สูงมากแต่ก็ค่อนข้างน่ากังวลไม่น้อย นั่นเพราะค้นพบของทีมถูกระบุว่าอาจมีนัยแฝงว่าในอนาคตข้างหน้าการแยกวิดีโอของจริงจากของปลอมจะยิ่งทำได้ยากขึ้นไปอีกยิ่งกว่าปัจจุบัน
“สิ่งที่อันตรายที่สุดคือผลที่ตามมาในโลกดิจิทัล ที่ภาพหรือวิดีโออาจกลายเป็นของปลอมได้ทุกเมื่อ จากนี้แม้เพียงการบันทึกที่ไม่ดี หรือปัญหาการถ่ายภาพนิดหน่อย ก็อาจจะถูกนำมาตั้งคำถามได้ทั้งสิ้น” นักวิจัยระบุ
และมันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าหากเทคโนโลยีใบหน้าปลอมยังคงพัฒนาไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ในอนาคตแม้แต่ภาพถ่ายหรือวิดีโอของจริงก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถืออย่างที่เคยเป็นมาอีกต่อไปเลยก็ได้
ที่มา
www.pnas.org/content/119/8/e2120481119
www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-10515187/Fake-faces-created-AI-look-trustworthy-real-people-study-reveals.html
neurosciencenews.com/ai-generated-faces-trust-20071/
futurism.com/the-byte/ai-faces-trustworthy