ท่ามกลางความงงเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.45 น. ของวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 นาย อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ‘ด้านประวัติศาสตร์’ ได้โพสต์ข้อความพร้อมแนบรูปภาพบุคคล 3 บุคคลด้วยกัน ประกอบไปด้วย มิ้นท์ I Roam Alone, เพนกวิน – พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ ดีเจอ๋องแอ๋ง สบัดแผ่น
เขาโพสต์จั่วด้วยแคปชั่นท่ามกลางความสงสัยว่า 3 คนนี้ มีความสัมพันธ์อะไรกันหรือไม่ ในทำนองเชิงที่ว่าพยายามจะโยงความเกี่ยวข้องของทั้ง 3 บุคคลเข้าด้วยกัน แต่ยังแน่ใจ ยังไม่ได้ฟันธง
“แค่หาคำตอบครับ ยังไม่ได้ฟันธง มาช่วยกันหาคำตอบละกัน ว่าใช่มั้ย? และ 3 คนในภาพ มีอะไรสัมพันธ์กันหรือไม่!”
ทำให้ชาวเน็ตก็มาร่วมให้ความกระจ่างกับเขาด้วยการตอบคอมเมนท์ว่า หน้าของบุคคลปรากฎอยู่บนเสื้อในภาพที่แนบมานั้นก็คือ ดีเจอ๋องแอ๋ง สบัดแผ่น ผู้มีเชื้อสายสุลต่าน ร่ำรวยจากการค้าน้ำมัน เป็นศิลปินผู้ร่ำรวยชอบแจกเงินเวลาขึ้นคอนเสิร์ต (รวยจนต้องขายเสื้อที่มีหน้าตัวเองเพื่อให้ทุกคนจดจำ)
“คนในเสื้อมีเชื้อสายสุลต่านครับ ร่ำรวยมาจากการค้าน้ำมันและที่ดิน เงินเยอะมากๆถึงขั้นจัดคอนเสิร์ตเพื่อให้ตัวเองขึ้นไปร้อง แถมชอบแจกเงินตอนเล่น ตอนนี้ได้ข่าวว่ากำลังสร้างลัทธิครับ จะต้องเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้สามจีบแน่ๆ เลยจรั๊ฟ”
“ลองเสริช google คำว่า ดีเจอ๋องแอ๋ง สะบัดแผ่นดูนะครับ ผมว่า เราว่าพวก 3 กีบ เราก็ควรจะมีสติ ใช้เหตุผลอย่าเหมือนพวกเค้านะครับ”
และไม่นานนัก ดีเจอ๋องแอ๋ง ก็โพสต์ตอบแล้วว่า…
“ถ้าไม่โอเคกับเสื้อลายนี้ ก็ขอแนะนำสั่งเสื้อ Anti อ๋องแอ๋งได้นะครับ” (ทำเสื้อแอนตี้เองแล้วก็ขายเองด้วย)
ตามมาด้วยการชี้แจงจาก มิ้นท์ I Roam Alone เรื่องเสื้อยืดหน้าผู้ชายหัวฟู
“ชี้แจงเรื่องเสื้อยืดหน้าผู้ชายหัวฟูนะคะ 🙂
เสื้อยืดตัวที่มีคนแค้ปรูปมิ้นท์ไปจากใน IG ที่เป็นผู้ชายหัวฟูๆพื้นหลังสีฟ้าเป็นเสื้อยืดหน้าพี่ดีเจอ๋องแอ๋งนะคะ เป็นเสื้อของวงดนตรีที่มิ้นท์ชื่นชอบ (ขอไม่แชร์เพลงพี่เขา เพราะเพลงเขามีแต่อิหยังวะมากๆ เดี๋ยวพี่ๆน้องๆตกใจ)
วงนี้มิ้นท์ชื่นชมเพราะเป็นวงดนตรีที่ดังจากการทำการตลาดที่เก่งมากๆ ทั้งๆที่ร้องเพลงฟังกี่รอบมิ้นท์เองก็ยังไม่เข้าใจความหมาย คอนเสิร์ตทีไรคนมาดูเต็มไปหมด ทั้งๆที่ตอนพี่เขาร้องเพลงตัวเองในคอนเสิร์ต พี่เขาเองก็ยังจำเนื้อร้องตัวเองไม่ได้
แต่ด้วยความที่เน้นความเป็นตัวของตัวเอง ออกลายเสื้อที่แปลกแหวกไปจากคนอื่น ออกมาหลาย edition ด้วย ทำให้เสื้อหน้าพี่ดีเจอ๋องแอ๋งกลายเป็นของหายาก ออกมาทีไรก็หมด หมด หมด
มิ้นท์มีเสื้อลายนี้ เสื้อลายหน้าตรุษจีน แล้วก็เสื้อลายแมลงสาบของพี่เขาค่ะ **สามารถดูเสื้อลายแมลงสาบได้ในคลิปปิ้งคอหมูย่างนะคะ**
มิ้นท์ขอบคุณที่มีคน inbox มาถามหลายคน เลยขอเล่าให้ฟังตรงนี้น้า
ปล. จริงๆมิ้นท์อยากเป็นนักร้อง อยากร้องเพลงต่อหน้าคนอื่น แต่แม่ไม่สนับสนุน บอกว่าเสียงมิ้นท์ทำให้คนทรมาน แต่พอเห็นวงนี้ของพี่ดีเจอ๋องแอ๋งดังขึ้นมาได้ ก็เลยรู้สึกชื่นชม มีความหวังจนเอาไปเปิดให้แม่ฟังอยู่เลย แต่แม่ก็ยังไม่สนับสนุนเรื่องนี้อยู่ดีค่ะ”
เมื่อได้อ่านคำชี้แจงแล้ว ทางอัษฎางค์ ก็เอ่ยถึงเรื่อง ‘คนบันเทิงกับการเมือง’ ต่อทันที
“น้องมิ้นท์และดีเจอ๋องแอ๋ง
“ความเป็นคนบันเทิงกับการเมือง”
ส่วนตัวผมติดตามผลงานและชื่นชมน้องมิ้นท์มาก ส่วนดีเจอ๋องแอ๋ง ถึงไม่ได้ติดตามผลงาน ก็ไม่ได้มีอคติใดๆ
ถ้าอ่านในแคปชั่น ก็จะเห็นได้ว่า ไม่ได้มีคำวิจารณ์ ตำหนิ ให้ร้ายใดๆ เลย เป็นเพียงการตั้งคำถาม
เพราะมีแฟนเพจของผม ซึ่งเป็นแฟนคลับของน้องมิ้นท์จำนวนหนึ่ง สงสัยกัน ผมก็เอามาตั้งประเด้นเพื่อหาคำตอบ ใจจริงของผมและอีกหลายคนอยากให้คำตอบออกมาว่าน้องมิ้นท์และดีเจอ๋องแอ๋ง ไม่ เกี่ยวข้องสัมพันธ์ กับคนอ้วนตรงกลาง
สำหรับผม ต่อให้น้องมิ้นท์และดีเจอ๋องแอ๋ง จะนิยมคนอ้วนกลางจริง ผมก็ไม่แปลกใจหรือตำหนิ ตราบใดที่ไม่เอาประเด้นทางการเมือง มาสอดแทรกในผลงานความบันเทิงของตนเองที่เผยแพร่ในสาธารณะ ผมก็จะชื่นชมน้องทั้ง 2 ต่อไป ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่รู้จักแยกแยะ
ความเห็นและความนิยมทางการเมือง แตกต่างกันไม่แปลกและยอมรับได้ แต่ต้องแยกแยะให้ได้ว่า ตัวเราซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมจะมีผู้ติดตามผลงานของเรา ที่นิยมการเมืองที่แตกต่างกันไป
เพราะฉะนั้นเรา (ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะในแง่ผู้ให้ความบันเทิง) ต้องไม่ชี้นำ สนับสนุนหรือต่อต้าน กลุ่มการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด และเราต้องวางตัวเป็นกลางถึงแม้ว่าใจจะไม่เป็นกลางก็ตาม
ยกเว้นว่า เราพร้อมจะออกมาเปิดหน้าสนับสนุนกลุ่มการเมืองใดๆ อย่างชัดเจน เป็นกิจลักษณะ ซึ่งนั้นก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้เช่นกัน
ผมเชื่อว่า คำอธิบายหรือคำแนะนำนี้ใช้ได้กับดารานักแสดง นักร้องนักดนตรี คนในวงการบันเทิง YouTubers Celebrity Influencer ทุกคน
เพราะคุณคือผู้นำทางความคิด เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด เป็นผู้ที่ถูกรักและนิยม จากทุกกลุ่มคนในสังคมที่มีความนิยมในการเมืองหรือความนิยมใดๆ ที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณจึงควรวางตัวเป็นกลาง
ซึ่งมันจะส่งผลดีต่อชีวิตและหน้าที่การงานและผลงานของคุณ รวมทั้งเป็นผลดีต่อสังคม
สิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติพัฒนาได้ดี คือความสามัคคีของคนในชาติ ไม่ใช่ความแตกแยกในสังคม
“แตกต่างได้ แต่ต้องไม่แตกแยก”
หวังว่าจะเข้าใจคำอธิบายอะไรง่ายๆ แบบนี้ได้
ฝากใครๆ ส่งข้อความนี้ไปที่น้องทั้ง 2 ด้วย
อัษฎางค์ ยมนาค”