ย้อนกลับไปในช่วงเช้าวันนี้ (27 พฤษภาคม) เราได้เขียนข่าวประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มอำนาจราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สามารถนำเข้าวัคซีน ในวิกฤติโควิด-19 ได้
ช่วงบ่ายวันนี้ มีกระแสการแชร์เอกสารของ บริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด บนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นเอกสารจากทางบริษัทส่งถึง เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ต่อโดยทันที
โดยในเอกสาร เป็นการเสนอขายวัคซีนต้านโควิด-19 ยี่ห้อ Sinopharm จำนวน 20 ล้านโดส ซึ่งสามารถดำเนินการส่งมอบได้ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์อีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจในเอกสารฉบับดังกล่าวก็คือ ตลอดช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา มีการแจ้งเอาไว้ว่าพยายามติดต่อกับทางนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่ก็ไม่สามารถติดต่อเข้าพบเพื่อเสนอขายวัคซีนดังกล่าวได้
ในวันนี้บริษัทฯ จึงถือโอกาสเสนอขายผ่านเอกสารฉบับนี้แทนนั่นเอง
.
ยิ่งไปกว่านั้น ชาวเน็ตได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีโพสต์ทวิตเตอร์ของคุณดวงฤทธิ์ บุนนาค ได้ทำการโพสต์เรื่องที่คล้ายคลึงกันเอาไว้
ในช่วงต้นเดือน เขาบอกว่ามีรุ่นน้องที่รู้จัก พยายามนำวัคซีน Sinopharm จำนวน 20 ล้านโดส เข้ามาเสนอให้รัฐบาลไทยใช้งาน โดยสามารถส่งมอบได้ใน 2 สัปดาห์เลย
แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าถึงรัฐบาลได้ เพราะตัวแทนนั้นถามหา “ผลประโยชน์ตอบแทน” กันก่อนทั้งหมด
.
ซึ่งหลังจากเข้าโพสต์ออกมาในตอนนั้น ถูกโจมตีว่าเป็นการกุเรื่อง และจงใจปั่นเฟคนิวส์ แต่เรื่องดังกล่าวทั้งปริมาณโดส และระยะเวลาส่งมอบ มาตรงกับเอกสารของบริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ ที่ออกมาตอนนี้พอดี
และปิดท้ายด้วยโพสต์ล่าสุดบนทวิตเตอร์ของคุณดวงฤทธิ์ ซึ่งออกมาย้ำในประเด็นวัคซีน Sinopharm จำนวน 20 ล้านโดส ที่เขาเคยโพสต์เอาไว้เมื่อต้นเดือน
โดยระบุว่า ไม่สามารถติดต่อกับทางภาครัฐได้ และที่ไม่ได้ขายวัคซีน เพราะมีการเรียกค่าคุย 5 ล้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเด็ดขาด โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติโรคระบาดเช่นนี้..
มีคนขอค่าคุย 5 ล้าน นี่คือเรื่องจริงในยามวิกฤติครับ เลวจริง https://t.co/IA1WP7zrgi
— Duangrit Bunnag (@DuangritBunnag) May 27, 2021
.
เรียบเรียง #ประธานเหมียว