เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องราวระหว่างตัวเด็กนักเรียนที่ย้ายมาใหม่กับครูผู้สอน ที่อาจจะทำให้รู้สึกว่าไม่อยากต้อนรับนักเรียนหรืออย่างไรกันแน่ เนื่องจากเรื่องนี้บุคคลที่เป็นครูนั้นได้ทำการแคปแชตของนักเรียนคนดังกล่าวไปนินทาลับหลังภายในกลุ่มไลน์
“โพสนี้จะยาวหน่อยนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า หลานสาวผมกำลังจะเข้าเรียนที่โรงเรียนเก่าผม (ไม่ขอเอ่ยชื่อ) ม.4 ห้องพิเศษ EC แล้วครูที่ปรึกษานัดไปรับอุปกรณ์การเรียน แต่หลานผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มไลน์ เลยไม่ทราบเรื่อง
พอหลานผมรู้ว่ามีนัดไปรับอุปกรณ์การเรียน จึงทักไปหาครูที่ปรึกษา แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นตามรูปภาพเลยครับ เพื่อนในกลุ่มไลน์ที่รู้จักหลานแคปมาให้หลานสาวดู ตอนนี้หลานผมจิตใจย้ำแย่ ไม่กล้าที่จะไปเรียน นี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะครับ ที่ครูที่ปรึกษาและนักเรียนบางส่วนเอาไปคุยกันนินทาหลานผมในกลุ่มไลน์เก่าตอนม.3
ตอนนี้หลานผมไม่อยากจะไปเรียน อยากย้ายกลับไปเรียนโรงเรียนเดิมแล้ว ผมในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ ไม่น่าเชื่อว่ายังจะมีสังคมแบบนี้ในโรงเรียนเก่าผม ครูที่ปรึกษาไม่ควรจะพูดแบบนั้น เพราะหลานไม่มีเพื่อนที่นี่เลย เพราะย้ายจากจังหวัดหนึ่งมาอีกจังหวัดหนึ่ง จึงทำให้ไม่มีเพื่อน มีแค่ลูกพี่ลูกน้องที่เรียนคนละชั้นกัน
ล่าสุด หลานขอแม่กลับไปเรียนที่เดิมละครับ ขอแชร์เรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับลูกหลานใครที่เคยโดนบูลลี่แบบนี้ตั้งแต่ครูที่ปรึกษายันนักเรียนร่วมห้องบางคน
#หดหู่ #สงสารหลาน #บูลลี่ไม่ใช่เรื่องตลก #ครูไม่สมควรเป็นครู #ผิดหวังในฐานะศิษย์เก่า”
ผู้ปกครองจึงได้นำภาพที่พูดคุยกันในกลุ่มดังกล่าวนำมาโพสต์เปิดเผยบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า เพื่อนที่รู้จักกับหลานของตนได้นำภาพดังกล่าวมาให้หลายดู
เนื่องจากหลานสาวไม่ได้อยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าว เพิ่งจะย้ายมาเรียนได้ไม่นาน และไม่ทราบว่ามีการนัดรับของที่โรงเรียน แต่เมื่อหลานได้เห็นการพูดคุยในนั้นทำให้รู้สึกจิตตกจนไม่กล้าไปเรียน
.
.
ทางด้านผู้ปกครองเองแทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมโรงเรียนอีก อีกทั้งเป็นโรงเรียนเก่าของตนเอง ครูที่ปรึกษาไม่ควรพูดแบบนั้น หลานไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่เนื่องจากย้ายมาจากจังหวัดอื่น มีแค่ลูกพี่ลูกน้องที่เรียนคนละชั้น จนกระทั่งต้องขอแม่กลับไปเรียนที่เดิม
.
.
พร้อมกันนี้ ผู้ปกครองจึงอยากฝากไว้ให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับลูกหลานใครก็ตามที่โดนบูลลี่ ตั้งแต่ครูที่ปรึกษาไปจนถึงนักเรียนร่วมชั้นเรียน ทำให้รู้สึกหดหู่และสงสารหลานเป็นอย่างมาก
ที่มา: @komgrid.nasomjai