หลังจากที่เป็นประเด็นอื้อฉาวเกี่ยวกับการรับร้องโหดอย่างรุนแรงจนเป็นสาเหตุทำให้ นายวีรพัฒน์ ตามกลาง หรือ ปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 คณะวิศวกรรมโยธามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (อุเทนถวาย) รุ่น 89 เสียชีวิต
จากการถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายผลัดกันเรียงคิวเตะหน้าอก เนื่องจากน้องในฐานะหัวหน้าที่ไม่ยอมออกความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมรับน้อง โดยรุ่นพี่ที่ก่อเหตุทั้งหมด 12 คน ยอมรับสารภาพแล้ว
วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ครอบครัวได้ทำพิธีฌาปนกิจศพน้องปลื้มที่บ้านเกิด ตำบลหนองกี่ อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ นำเสื้อช็อปของน้องปลื่มไปแขวนไว้บริเวณหน้าเมรุ โดยมีญาติและเพื่อนๆ เข้าร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ไม่มีรุ่นพี่มาร่วมพิธีแต่อย่างใด
โดยก่อนหน้านั้นในคืนวันที่ 9 มิถุนายน 2564 เป็นการสวดพระอภิธรรมศพคืนสุดท้าย ช่วงเวลาประมาณ 21.30 รุ่นพี่ทั้ง 12 คน ทั้งชายและหญิงที่ร่วมกันก่อเหตุ เดินทางมาจุดธูปไหว้กราบขอขมาศพ ต่อหน้าแม่น้องปลื้ม นางมนัสนันท์ ตามกลาง อายุ 57 ปี รวมทั้งต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ
กลุ่มรุ่นพี่กลุ่มนี้ยกมือไหว้กราบขอขมาครอบครัวน้องปลื้ม ทำได้เพียงแค่ขอโทษและอ้างว่าทำไปไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเหตุถึงแก่ชีวิต
“ถ้าเป็นเขาเป็นเราโดนแบบนี้พ่อแม่จะเสียใจแค่ไหน” ประโยคดังกล่าวคือคำถามที่แม่น้องปลื้มได้ถามรุ่นพี่ โดยหลังจากนี้จะให้เป็นเป็นไปกระบวนการยุติธรรม ส่วนรุ่นพี่ทั้ง 12 คนใช้เวลาอยู่ในงานศพประมาณ 15 นาที ก่อนจะเดินทางกลับ
ทั้งนี้ นายวีรพงษ์ ตามกลาง ผู้เป็นพี่ชายของน้องปลื้ม กล่าวว่าทางครอบครัวมั่นใจว่าน้องปลื้มจะได้รับความยุติธรรม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าใจความรู้สึกของรุ่นพี่ที่ก่อเหตุระหว่างมาขอขมา แต่อยากให้คิดก่อนทำ ไม่ใช่ทำแล้วคิด
เพื่อนของน้องปลื้มระบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความคับแค้นใจ
“กว่าจะพากันโผล่หน้ามาก็จวนจะเผา ร่างเกือบจะกลายเป็นเถ้าถุลี แต่ก็ยังดีที่ยังกล้าออกมาขอขมาศพ กล้ามากราบเท้าพ่อแม่ญาติพี่น้องปลื้ม
สำหรับคนที่ขึ้นชื่อว่าร่วมกันฆ่าปลื้ม พวกมึงโชคดีมากที่ไม่โดนรุมประณาม จากญาติ จากเพื่อนพ้อง ที่เขาก็ รักชีวิตของลูกหลานของเพื่อนเขา พวกมึงยังโชคดีที่ยังมีชีวิต มีลมหายใจ ทำอะไรได้หลายสิ่งหลายอย่างในขณะที่เพื่อนกูทำไม่ได้แล้ว”
“มึงยังมีโอกาสออกมาพบเจอพ่อแม่ญาติพี่น้อง เพื่อนพ้อง ในขณะที่เพื่อนกูกำลังจะกลายเป็นแค่คนในความทรงจำ พวกมึงมันใจดำ ใจดำเหมือนหมา ใจพวกมึงมันส้นตีน ใจพวกมึงทำด้วยอะไร
ในขณะคนร่วมกันในแก๊ง ต่างมีเพศแม่ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพศที่อ่อนโยน และควรจะต้องเข้าถึงหัวอกของคนเป็นแม่ด้วยซ้ำ ทำไมถึงกล้าให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น”
“เพื่อนกูไปทำอะไรให้พวกมึง ทำไมถึงทำกับมันขนาดนี้ อย่าไปทำแบบนี้กับใคร ทุกคนมันก็รักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น ขนาดพ่อแม่มึงเขาก็ยังรัก ยังทะนุถนอมมึง
พ่อแม่เพื่อนกูก็เช่นกัน กว่าจะเลี้ยงให้เติบโต พ่อแม่เขาก็เฝ้าฝันว่าวันหนึ่งลูกจะเรียนจบ มีงานดี ๆ ทำเขาจะได้พึ่งพาลูกเขาต่อไป และต่อจากนี้มันคงเป็นได้แค่ฝัน ที่ไม่อาจลบเลือนจากหัวใจได้เลย”
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี ทางตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกครั้งที่ 1 กับรุ่นพี่และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อาจจะมีมากกว่า 12 คน หากพบว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงได้
และหากยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากยังไม่มาอีกจะออกหมายจับในทันที ทั้งนี้ยังไม่มีการเข้ามาให้ปากคำจากรุ่นพี่แต่อย่างใด
ทั้งนี้หากจะออกหมายใจได้ในทันทีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ต้องรอผลการรักษาจากโรงพยาบาลหัวเฉียว ผลการชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และต้องสอบปากคำให้เสร็จว่าใครเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน เพราะเป็นคดีมีอัตตราโทษสูง
ตอนนี้ได้เรียกสอบปากคำทั้ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อาจารย์ นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์เรียบร้อยแล้ว พยานบางรายกลัวการเข้ามาให้ปากคำ ตำรวจยืนยันว่าจะให้ความปลอดภัยและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงอยากขอให้มาให้ข้อมูลเพื่อทำให้ความจริงปรากฎ
ทางผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย อัจฉริยเมธากร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ระบุว่าจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ โดยยังอยู่ในระหว่างการหารือกับอธิการบดีมหาวิทยาลัย หากได้ข้อสรุปแล้วจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
ส่วนการยังไม่แจ้งข้อหาบุกรุกเคหะสถานกับกลุ่มรุ่นพี่นั้น ยังอยู่ในระหว่างการหารือถึงข้อกฎหมาย ส่วนความผิดของรุ่นพี่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้รุ่นน้องเสียชีวิต มีโทษให้ออกจากสถานะการเป็นนักศึกษา โดยยังอยู่ในการพิจารณาเสนอต่ออธิการบดี
ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ปกปิดข้อมูลใดๆ และได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตถึงแนวทางการเยียวยาช่วยเหลือแล้ว ทางครอบครัวไม่ติดใจอะไรและขอให้ดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย
ที่มา: ch3plus