เป็นที่ทราบกันดีว่าความนิยมของแอปฯ LINE ในประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นแอปแชตอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ มีผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่มมากรวมไปถึงการใช้งานภายในหน่วยงานของราชการเช่นกัน
แต่ทว่าด้วยการตั้งชื่อของแต่ละคนอาจจะมีลูกเล่นหรือชื่อเล่นต่างๆ ที่ตั้งเอาไว้เพื่อการพูดคุยกับเพื่อน คนรู้จัก หรือคนสนิท ไม่ได้ตั้งชื่อมาเพื่อใช้ในการติดต่องานตั้งแต่แรก และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาได้
เรื่องดังกล่าวเปิดเผยโดยครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ โพสต์ภาพแชตกลุ่มไลน์ของ สพป. บุรีรัมย์ เขต 2 ที่มีการสั่งให้ครูเข้ากลุ่มไลน์ พร้อมกับคำสั่งชับให้ครูเปลี่ยนชื่อ LINE ให้เป็นชื่อจริง นามสกุลจริง ตามด้วยชื่อโรงเรียน หากใครไม่เปลี่ยนจะมีการเรียกตัวไปพบเพื่อปรับทัศนคติ
ทั้งนี้ การสั่งให้ครูต้องคอยเปลี่ยนชื่อไลน์เพื่อติดต่อผ่านกลุ่มงานนั้น อาจทำให้บางคนไม่สะดวกสบายใจ เนื่องจากครูใหญ่มองว่าครูคือคนทั่วไปที่ควรมีความเป็นส่วนตัวบ้าง การใช้ LINE เพื่อกลุ่มสังคมอื่นก็มี ไม่ใช่ใช้เพื่อติดต่อสื่อสารผ่านการทำงานอย่างเดียว อาจเป็นตัวช่วยในการทำงานราชการสะดวกขึ้น แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
.
.
และการสั่งให้เปลี่ยนชื่อนั้นเขามองว่าเป็นละเมิดความเป็นส่วนตัว อีกทั้งการกำชับคำสั่งด้วยการเรียกพบตัวเพื่อปรับทัศนคติ เป็นการลุแก่อำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นความปรารถนาดีก็ตาม
.
ปัญหาดังกล่าวเหมือนจะไม่มีการแก้ปัญหาที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น หลังจากที่มีการเปิดเผยเรื่องไปตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ต่อมาก็ยังบังคับให้เปลี่ยนชื่อ LINE ที่ครูใช้เพื่อการส่วนตัวเช่นเดิม อีกทั้งจะขู่ดำเนินคดี พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ หรือใช้อำนาจอย่างอื่นเพื่อดำเนินการกับครูที่แสดงความเห็นหรือแชร์เรื่องดังกล่าว
.
อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตได้เสนอวิธีการแก้ปัญหาที่พอจะเป็นทางออกสำหรับการเปลี่ยนชื่อใน LINE ด้วยการใช้งาน OpenChat ซึ่งเป็นการเปิดกลุ่มพูดคุยทดแทนได้เช่นเดียวกับฟังก์ชั่นแชตแบบกลุ่มเดิม
ที่มา: @atta.big