กลายเป็นเรื่องฉาวในวงการการศึกษาอีกครั้ง เมื่อครูสาวพบว่าสามีตนเองที่เป็นครูเหมือนกันคบกับลูกศิษย์วัย 18 ปี เกินเลยเป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาว มีภาพหลักฐานความใกล้ชิดถึงขั้นหอมแก้ม ส่วนลูกศิษย์ก็ไม่เบายุยงให้เลิกกันท้าให้ฟ้องด้วย
ครูโอปอ พร้อมกับนางสาววัชรภรณ์ วงอินตา ทนายส่วนตัว ได้เข้ายื่นหนังสือพร้อมแนบเอกสารหลักฐานต่างๆ ผ่านนายกิตินันท์ อินทรกำแหง นิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่ ไปยัง ดร.สุทธิดล พุทธรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่
เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบวินัย ครูกอล์ฟ สามีครูภาษาไทยโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอสันป่าตอง หลังจากมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักเรียนหญิงวัย 18 ปีคนหนึ่ง ที่เป็นลูกศิษย์ของครูกอล์ฟ
นางสาววัชรภรณ์ ทนายส่วนตัวครูโอปอกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทั้งสองได้แต่งงานจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีลูกด้วยกัน 1 คน
ก่อนหน้านี้ครูกอล์ฟสอนอยู่ที่โรงเรียนในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม ส่วนครูโอปอ สอนอยู่ที่โรงเรียนในพื้นที่อำเภอสันทราย (สอนคนละโรงเรียน)
สองปีก่อนฝ่ายชายได้ย้ายมาสอนหนังสือในพื้นที่อำเภอสันป่าตอง ทำให้มีโอกาสได้อยู่ร่วมพร้อมหน้าพร้อมตากัน
จนกระทั่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ครูโอปอสังเกตเห็นว่าสามีมีพฤติกรรมผิดปกติ พยายามหาข้ออ้างเพื่อแยกกันอยู่ โดยยกเรื่องความเสี่ยงแพร่เชื้อโควิดกับคนในครอบครัวมาประกอบ
ความผิดปกติตรงนี้ ทำให้ครูโอปอตัดสินใจตรวจดูโทรศัพท์มือถือของสามี
ปรากฎว่ามีหลักฐานแชตคุยกับลูกศิษย์คนดังกล่าวในเชิงชู้สาว มีภาพถ่ายคู่กันลงในโซเชียล วิดีโอคอลคุยกัน และถ่ายคลิปลักษณะเหมือนฝ่ายชายหอมแก้มฝ่ายหญิง สถานที่คล้ายกับโรงแรมหรือห้องพักส่วนตัว
นอกจากนั้นยังมีลักษณะการพูดคุยจากฝ่ายหญิงเกลี้ยกล่อมให้ครูกอล์ฟเลิกกับภรรยา (ครูโอปอ) เพื่อมาอยู่กับลูกศิษย์
ครูโอปอเก็บข้อมูลและหลักฐานมาเรื่อยๆ จนกระทั่งตัดสินใจถามหาความจริงกับสามีช่วงเดือนมีนาคม พยายามพูดคุยให้สามีเลิกพฤติกรรมแบบนี้จนทะเลาะกันหลายครั้ง
พอคุยกันไม่รู้เรื่องจึงขอหย่ากับสามี เรียกร้องดูแลบุตรและค่าเลี้ยงดูบุตรแต่ถูกบ่ายเบี่ยงตลอด ในที่สุดนำไปสู่การฟ้องหย่า
นอกเหนือไปจากพฤติกรรมชู้สาวแล้ว ครูกอล์ฟยังนำข้อสอบของครูโอปอและเพื่อนครูคนอื่นส่งให้กับลูกศิษย์คนนี้ผ่านแอปสนทนา ทำให้ครูโอปอดำเนินการปรึกษาทนายส่วนตัว และยื่นหนังสือให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ทำการสอบวินัยครูกอล์ฟ
ทนายความครูโอปอเสริมว่า ก่อนหน้านี้ลูกความทราบเรื่องและพยายามคุยกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงแล้ว แต่กลับถูกข่มขู่ฟ้องหมิ่นประมาท
ครูโอปอระบุว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่กระทบต่อจิตใจของตนเองมาก เนื่องจากมีลูกสาววัย 4 ขวบ พยายามพูดคุยเจรจาอย่างประนีประนอมที่สุดแล้วแต่ถูกบ่ายเบี่ยงจนส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัว และคิดว่าไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้เพราะอาจกระทบกับลูกในอนาคต
ตอนนี้ครูโอปอยืนยันหย่าขาดกับสามีอย่างแน่นอน พูดกับตัวครูกอล์ฟและครอบครัวครูกอล์ฟแล้ว กลับได้รับคำตอบว่า หากมั่นใจในหลักฐานก็ดำเนินการทางกฎหมายได้ และถึงจุดนี้ครูโอปอตัดสินใจฟ้องหย่าและดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
นายกิตินันท์ อินทรกำแหง นิติกรชำนาญการพิเศษ สพม.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าหลังรับหนังสือร้องเรียนแล้ว หากมีข้อเท็จจริงถือว่าเป็นความผิดวินัยร้ายแรง โดยจะนำข้อมูลและหลักฐานเสนอให้ผู้บริหารพิจารณาอีกครั้ง พร้อมกับตรวจสอบหลักฐานให้รัดกุม
หากพบว่ามีข้อเท็จจริง ‘อาจ’ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบควบคู่ไปกับโรงเรียนต้นสังกัดครูกอล์ฟ เพราะผู้บริหารได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบไปแล้วก่อนหน้านี้แต่ยังไม่มีข้อสรุป
ที่มา: @ข่าวช่องวัน, khaosod, ch3plus