ข้อปฏิบัติของผู้ที่ติดเชื้อโควิดหรือสัมผัสเสี่ยงสูงนั้นต่างต้องกักตัวในพื้นที่ปิดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผู้ติดเชื้อหลายคนกลับต้องเจอความยากลำบากในการใช้ชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม
เว็บไซต์สนุกรายงานเกี่ยวกับครอบครัวของนายก้องที่อาศัยอยู่ในบ้านร่วมกับครอบครัว โดยล่าสุดหลังจากที่น้องชายของภรรยาติดเชื้อโควิดถูกส่งไปรักษาแล้ว
เมื่อทางเจ้าของคอนโดที่ทำบ้านเช่าอยู่ท้ายซอยและติดอยู่กับบ้านของนายก้องทราบข่าว ได้มีการสั่งให้ลูกน้องนำแผ่นไม้มาตอกปิดทับประตูไม่ให้ออกมารับอาหารได้
เขาบอกว่าการทำเช่นนี้ไร้มนุษยธรรม เหมือนถูกขังให้อดตาย แม้จะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงแต่ก็กักตัวเองอยู่ในบ้านรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ได้ออกไปไหน ทุกวันนี้พึ่งพาแต่น้องสาวที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน เป็นคนช่วยซื้อข้าวซื้อน้ำและยานำมาส่งให้ทุกวันผ่านประตูหลังบ้านบานนี้
เมื่อถูกเจ้าของคอนโดสั่งลูกน้องมาตอกไม้ปิดประตูแบบนี้ เขาจึงอยากถามว่ายังเหลือความเป็นคนอยู่หรือไม่ ส่วนสาเหตุที่ไม่ให้น้องสาวไปส่งอาหารหน้าบ้านเพราะมีคนผ่านสัญจรไปมาตลอด จึงไม่อยากให้คนอื่นเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
ตอนที่นายก้องทราบว่าเป็นฝีมือใครที่มาตอกไม้ปิดประตูไม่ให้เข้าออก เขารู้สึกโกรธและโมโหมาก ไปถามหาความรับผิดชอบกับเจ้าของคอนโด ถามว่ามีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้และทำลายทรัพย์สินบ้านของเขา
ในเมื่อก็รู้อยู่ว่าต้องใช้เข้าออกเพื่อรับอาหารในแต่ละวัน พื้นที่หลังบ้านก็เป็นทางเดินเท้าสาธารณะ เป็นพื้นที่ส่วนรวมใช้ร่วมกัน กั้นระหว่างที่ดินบ้านเช่าของเจ้าของคอนโดกับบ้านของนายก้อง
แต่สิ่งที่เจ้าของคอนโดทำคือขยายพื้นที่บ้านเช่าออกมาบนทางสาธารณะจนชนติดถึงกำแพงบ้านนายก้อง ยึดเป็นพื้นที่ส่วนตัว ยิ่งไปกว่านั้นคือการนำไม้มาตอกปิดประตูบ้านคนอื่น มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ
พอหลังจากที่โวยกับเจ้าของคอนโดว่าจะเอาเรื่อง อีกฝ่ายจึงส่งลูกน้องมาถอนไม้ที่ตอกปิดประตูหลังบ้านออก นายก้องจึงถ่ายคลิปบันทึกหลักฐานเอาไว้
โดยตั้งแต่วันเกิดเหตุ นายก้องได้โทรศัพท์ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกับแจ้งร้องทุกข์ไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี และเทศบาลนครนนทบุรี เพื่อให้มาตรวจสอบการครอบครองทางเดินเท้าสาธารณะของบ้านเช่าหลังนี้
เนื่องจากเป็นข้อพิพาทที่มีการกั้นประตูทางเข้าออกและห้ามคนอื่นผ่าน นายก้องระบุว่าหากทราบผลตรวจหาเชื้อแล้วออกมาเป็นลบ จะรีบดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดกับเจ้าของคอนโดต่อไป
ที่มา: sanook