จากกรณีเหตุการณ์ชุมนุม เมื่อวัน 18 กรกฎาคม 2564 บนโลกออนไลน์ได้มีภาพถ่ายหลายภาพที่กลายเป็นกระแสและหัวข้อพูดคุยไป
หนึ่งในภาพเหล่านั้นคือภาพของ ชายคนหนึ่งซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์มีกล่องฟู้ดแพนด้า ได้ใช้น้ำมันราดบนผ้าประดับ ก่อน จุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 10 ในระหว่างการชุมนุม
ภาพถ่ายที่ออกมานี้ทำให้ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายจับไรเดอร์ฟู้ดแพนด้าในภาพทันที ภายใต้ข้อหา หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และพระราชินี วางเพลิงเผาทรัพย์ฯ ของผู้อื่น ทำให้เสียทรัพย์ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
โดยทางตำรวจได้เปิดเผยว่าหนุ่มคนดังกล่าวมีชื่อว่า “นายสิทธิโชค เศรษฐเศวต” อายุ 25 ปี และระบุพฤติการณ์การกระทำผิดโดยย่อของเขาว่า
ใช้ขวดพลาสติกบีบของเหลวคล้ายน้ำมันเชื้อเพลิง พ่นใส่กองเพลิงซึ่งลุกไหม้อยู่บริเวณผ้าประดับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี บริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนินนอก
ทำให้กองเพลิงดังกล่าวเริ่มลุกไหม้ แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้ฉีดน้ำดับเพลิงได้ทัน เพลิงจึงไม่ลุกลามไปถึงพระบรมฉายาลักษณ์
ไม่นานหลังจากที่มีการออกหมายจับนายสิทธิโชค เมื่อกลางดึกของวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ก็ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
“ไรเดอร์ที่ต้องหาว่าเผารูป ร.10 ถูกจับแล้วเมื่อสักครู่หลังเวลาเคอร์ฟิว ทำให้ขาดทนายความ ขณะนี้กำลังส่งตัวไปที่ สน.นางเลิ้ง”
ในขณะที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์หรือ “เพนกวิน” ก็ได้โพสต์ตามในภายหลังเช่นกันว่า ด่วน ! ไรเดอร์ที่ถูกกล่าวหาว่าเผารูป ร.10 ถูกตำรวจจับ เพราะติดเคอร์ฟิวจึงยังขาดการติดต่อและไม่มีทนาย
และทาง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่มีการใช้ตำรวจนอกเครื่องแบบราว 10 นาย เข้าจับกุมนายสิทธิโชคที่บ้านพักย่านรังสิต ก่อนนำตัวไปยังสน. ประตูน้ำเพื่อทำบันทึกจับกุม และส่งตัวต่อไป สน.นางเลิ้ง ดังข่าวที่ออกมานั่นเอง
เมื่อเวลา 21.50 น. ศูนย์ทนายฯ ได้รับแจ้งว่านายสิทธิโชค อายุ25ปี ไรเดอร์ฟู๊ดแพนด้าถูกตำรวจนอกเครื่องแบบราว10นาย จับกุมที่บ้านพักย่านรังสิต ในข้อหา #ม112 โดยได้ถูกนำตัวไปยังสน.ประตูน้ำเพื่อทำบันทึกจับกุมก่อนจะถูกส่งตัวไปยังสน.นางเลิ้งต่อไป #แบนfoodpanda pic.twitter.com/WLh0ZUBXjn
— TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (@TLHR2014) July 19, 2021
ที่มา kapook, rdnews และ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน