กลายเป็นเรื่องใหญ่โตเกี่ยวกับศาสนาพุทธในประเทศไทยขึ้นมา หลังจากที่มีการแชร์ภาพของขนมอาลัวจากร้านมาดามชุบ ที่เป็นการทำขนมอาลัวในรูปแบบของพระเครื่อง นำเสนอความแปลกและแตกต่างพร้อมสีสันสดใส
โดยระบุว่าขายกล่องละ 20 ชิ้น ราคา 100 บาท แน่นอนว่าหลังจากที่เผยแพร่ออกไปแล้วออเดอร์ก็เข้ามาอย่างถล่มทลายจนผลิตแทบไม่ทัน
ในขณะเดียวกันที่มีกระแสชื่นชมในการทำขนม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทางด้านศาสนารวมไปถึงตัวของพระเองต่างก็แสดงความคิดเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยกับการทำขนมอาลัวในลักษณะเช่นนี้ เนื่องจากไม่มีความเหมาะสม เป็นการทำร้ายจิตใจของชาวพุทธ
อย่างเช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เตรียมจัดทำหนังสือชี้แจงไปยังร้านขนมที่จำหน่ายขนมอาลัวพระเครื่อง ว่าการกระทำลักษณะนี้ไม่เหมาะสม
ผู้ผลิตไม่ควรทำขนมอาลัวรูปทรงพระเครื่อง เพราะรูปพระเครื่องถือเป็นวัตถุมงคล ไม่ใช่อาหารหรือขนม เป็นเครื่องสักการบูชาพระพุทธเจ้า
เช่นเดียวกับ นางสุชาดา หิรัญภัทรานันท์ วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม ระบุว่า กรณีนี้ได้หารือกับสำนักงานพระพุทธศาสนา มีความเห็นตรงกันว่าการที่จะนำวัตถุมงคลที่เคารพของชาวพุทธศาสนิกชนไปทำเป็นรูปอาหารไม่น่าจะเหมาะสม
ยิ่งหากวันไหนที่ขนมเสียนำไปทิ้ง และมีภาพสุนัขหรือแมวมากัดกินยิ่งไม่น่าดู โดยพรุ่งนี้ทั้ง 2 หน่วยงานจะลงไปให้คำแนะนำกับเจ้าของร้าน
เว็บไซต์เดลินิวส์ได้สอบถามความคิดเห็น พระพยอมกัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวโดยชี้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำขนมอาลัวพระเครื่อง เพราะเป็นสิ่งที่คนนับถือมาทำขนมกินจะรู้สึกไม่ดี อย่างอื่นทำได้แต่อย่านำของที่มีคนนับถือมาทำเล่น
ยกตัวอย่างที่เคยทำขนม ‘จตุคำ’ ออกมาในช่วงที่จุตคามรามเทพกำลังดัง คนที่ทำจตุคามก็โกรธหาว่าไปล้อเล่น แม้จะมีเจตนาทำเพื่อเตือนสติก็ตาม
พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอาลัวพระเครื่อง
.
ทางด้าน พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับขนมอาลัวพระเครื่องผ่านเพจส่วนตัว โดยระบุว่า ใครรับไม่ได้ อาตมาก็เคารพสิทธิ์
แต่สำหรับอาตมา ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องลบหลู่อะไร เรามักรับกันไม่ได้ที่พระเครื่องรูปแบบขนม แต่รับได้ถ้าพระเครื่องจะถูกนำมาปั้มวางขายเป็นตะกร้าองค์ละ 5 บาท 10 บาท หรือนำไปขายราคาองค์ละหลายล้าน
.
.
.
ท่ามกลางการเข้ามาแสดงความคิดเห็นของชาวเน็ตชาวพุทธที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต่างถกเถียงประเด็นนี้กันอย่างกว้างขวาง
รวมไปถึงกรณีที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้ามาชี้ว่าขนมอาลัวพระเครื่องเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม กลับกันแล้วเรื่องอื่นๆ อย่าง ไอ้ไข่หรือการบูชาอะไรอย่างอื่นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมบ้าง
ภายหลังจากที่เป็นดราม่าใหญ่โตกับขนมอาลัวพระเครื่องทางร้านมาดามชุบเอง ก็ระบุว่าไม่ได้ทำเพื่อหวังกระแส แต่ทำด้วยความจริงใจ ใส่ใจให้กับลูกค้า
รวมไปถึงไม่อยากดังและทำอาลัวพระเครื่องเพื่อกอบโกยเงิน และขอปฏิเสธสื่อไม่ให้ถ่ายและสัมภาษณ์แล้ว เพราะบุกมาถึงบ้านตามตื้อทำข่าว อยากทำขนมตามออเดอร์ให้เสร็จก่อนที่จะหยุดพักยาว
ที่มา: @madamchoops, @paivan01, pptv, dailynews, prachachat, thaich8, matichon