เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับนักเรียน ที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี ซึ่งทางกระทรวงตั้งเป้าไว้ที่ 5 ล้านราย โดยมีการตอบกลับเพื่อฉีดวัคซีนกว่า 3.6 ล้านราย คิดเป็น 71%
แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดได้เกิดประเด็นดราม่า เมื่อมีกระแสใน Tiktok ของนักเรียนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน จนเกิดการตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ยอมฉีด เพราะอะไร?
เทรนด์การไม่ฉีดไฟเซอร์ของน้อง ๆ ในtiktok มันไม่เท่เลยนะคะ
เศร้ามากนะ เราเรียกร้องให้น้อง แต่น้องปฏิเสธ เพราะ อะไรอ่ะ เกิดอะไรขึ้น— Cxllme Michelle⁷ (@Michelle97TK) October 5, 2021
ประเด็นนี้ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ Michelle-Thipubsorn K. ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้มีกระแสการไม่ยอมฉีดวัคซีนของนักเรียนใน TikTok พร้อมกับทวีตข้อความว่า
“เทรนด์การไม่ฉีดไฟเซอร์ของน้อง ๆ ในtiktok มันไม่เท่เลยนะคะ เศร้ามากนะ เราเรียกร้องให้น้อง แต่น้องปฏิเสธ เพราะ อะไรอ่ะ เกิดอะไรขึ้น”
หลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดดห็นต่อเรื่องนี้ บางคนบอกว่า เด็กนักเรียนที่ไม่ยอมฉีก เพราะได้ข้อมูลมาว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
ในขณะที่บางคนก็บอกว่า เป็นเรื่องปรกติที่เด็กจะตัดสินใจฉีดหรือไม่ฉีดก็ได้ เพราะมีสิทธิในร่างกายตัวเอง
ความเห็นชาวเน็ตกับประเด็นที่เกิดขึ้น
.
.
.
.
.
.
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า การฉีดวัคซีน mRNA ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งพบในกลุ่มคนที่มีอายุน้อย
โดยพบว่า ผู้ชาย อายุ 12-29 ปี มีความเสี่ยง 39-47 ราย ต่อการฉีดวัคซีน 1 ล้านโดส ส่วน ผู้หญิงอายุ 12-29 ปี มีความเสี่ยง 4-5 ราย ต่อการฉีดวัคซีน 1 ล้านโดส และความเสี่ยงจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น