เราอาจจะเคยเห็นเหตุการณ์แหกคุกเกิดขึ้นในบ้านเราพอเป็นข่าวบ้างประปราย แต่เหตุการณ์นี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวการแหกคุกที่แสนจะบังเอิ๊ญบังเอิญจนขนาดเราคิดว่ามันคือพลอตหนังเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว…
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางตำรวจได้ทำการจำกุมนายณัฐกานต์ เกสรสิทธิ์ หรือ อาย วัย 30 ปี ในข้อหาเสพยาเสพติด ก่อนจะนำตัวมาคุมขังในห้องขัง สภ.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งการคุมขังในครั้งนี้พาเรามาสู่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด โดยหลังจากที่นั่งอยู่ในห้องขังเปลี่ยวๆ อย่างเดียวดาย นายอายได้ทำการแกล้งใช้เสื้อผ้าของตัวเองทำเป็นเหมือนกำลังจะผูกคอฆ่าตัวตายในห้องขัง
สิบเวรที่เห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปห้ามปรามและปลอบใจ แต่จังหวะนั้นได้มีการขัดขืนจนทำให้ในห้องขังชุลมุนกันอยู่สักพัก ก่อนเหตุการณ์ทั้งหมดจะสงบลง
จากนั้นคุณตำรวจก็เดินออกจากห้องขังไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าตนทำไฟแช็กตกไว้ในห้องขังนั้นและนายอายก็เก็บเอาไว้กับตัว…
พอตกตอนเย็นตำรวจได้เอาข้าวกล่องมาให้นายอาย เขาจึงวางแผนการป่วนโรงพักครั้งใหม่ด้วยการจุดไฟเผากล่องโฟมด้วยไฟแช็กที่ตัวเองเพิ่งเก็บได้
จังหวะนั้นเหตุการณ์ในโรงพักยิ่งกว่าคำว่าชุลมุนขึ้นไปอีก ตำรวจรีบเปิดห้องขังเพื่อช่วยกันดับไฟ พอสบโอกาสนายอายก็วิ่งหนีไปยังหน้าโรงพักโดยมีตำรวจวิ่งตามมา
ความบังเอิญมันอยู่ตรงที่ ‘กำนัน‘ ตำบลสิชลดั๊นไปทำธุระแถวๆ นั้นพอดี แถมจอดรถกระบะที่ติดเครื่องยนต์เอาไว้พร้อม นายอายที่เห็นโอกาสอยู่ตรงหน้าจึงรีบขึ้นรถและขับออกไปทันที!
นายอายขับรถหลบหนีไปไกลกว่า 17 กิโลเมตรถึงทางขึ้นเขาห้วยโศก ก่อนจะจอดรถทิ้งเอาไว้และเดินหลบหนีขึ้นไปบนเขา
แต่ที่ซวยและบังเอิญไปมากกว่าการที่นายอายขโมยรถหลบหนีไปได้ คือการที่กำนันบอกกับตำรวจว่า “ในรถมีปืนอยู่“ และพอตรวจสอบในรถก็พบว่านายอายได้หยิบปืนกระบอกนั้นพกติดตัวไปด้วย
ทางตำรวจจึงรีบระดมกำลังตำรวจชุดสืบสวนและ อส.ฝ่ายปกครองกว่า 20 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ออกตามหานายอายกันให้วุ่น ซึ่งความยากคือฟ้าเริ่มมืดและฝนก็เริ่มตก เจ้าหน้าที่จึงหยุดค้นหาและทำการปิดล้อมเขาเอาไว้ทั้งคืนจนถึงเช้า
พอถึงช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้เริ่มค้นหาอีกครั้งและเดินเท้าเข้าไปนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะพบนายอายนอนหลับอยู่ในกระท่อมจึงได้ทำการจู่โจมเข้าจับกุมทันที
ภายหลังนายอายให้การสารภาพว่าตนพยายามหลบหนีเพราะความเครียด และน้อยใจที่ไม่มีครอบครัวคนไหนมาเยี่ยมเลย จึงทำให้เกิดแผนการหลบหนีแบบนี้ตามมา…
เรียกได้ว่าเอาเหตุการณ์นี้คล้ายกับพลอตหนังที่ใครหลายคนเคยดูจริงๆ ค่ะ เห็นแบบนี้แล้วจาก “โทษหนักกลายเป็นเบา” ดูเหมือนว่านายอายจะได้ “โทษเบากลายเป็นหนัก” แทนนะเนี่ย
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: amarintv, komkhaotuathai
ติดตาม CatDumb ได้ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.CatDumb.com
Youtube: www.youtube.com/c/CatDumbTV-Youtube
Instagram: www.instagram.com/catdumbnews/
TikTok: www.tiktok.com/@CATDUMBtv