ปัญหาการถูกขโมยเสื้อผ้าจากร้านซักผ้าหยอดเหรียญ เอาเข้าจริงๆ ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตามในจังหวัดอุดรธานี เรื่องราวการขโมยเสื้อผ้าที่เกิดขึ้นเมื่อล่าสุดนี้ก็ดูจะแปลกกว่าปกติมากเลย
นั่นเพราะในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เราก็เพิ่งจะมีข่าวหนุ่มวัย 49 ปีรายหนึ่งถูกตำรวจเข้าจับกุมตัว หลังจากที่เขาออกขโมยกางเกงในสตรีตามร้านซักผ้าหยอดเหรียญมาดม แถมยังฉีกเป้าสำเร็จความใคร่ แล้วค่อยเอากลับมาคืนด้วย
เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่หญิงสาววัย 25 ปีรายหนึ่งได้พบว่าขณะที่ตนนำเสื้อผ้าไปซักกางเกงในจำนวน 5 ตัวของตนเองได้ถูกเจาะรูตรงกลางเป้า ทำให้ตนคิดว่าอาจถูกใครบางคนนำไปสำเร็จความใคร่
ดังนั้นตนจึงขอทางร้านดูกล้องวงจรปิดและพบภาพคนร้ายขี่รถสามล้อเครื่องเข้ามาขโมยกางเกงในจึงนำเรื่องเข้าแจ้งความกับทางตำรวจ
เมื่อทำการสืบสวนทางตำรวจก็พบว่าคนร้ายผู้ก่อเหตุนั้น คือนายพลชัย ปิตตาระพา อายุ 49 ปี ผู้ซึ่งสารภาพว่า ได้ก่อเหตุขโมยกางเกงในที่ร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจริง
โดยเขาได้นำกางเกงในที่ได้มาไปสูดดม ใช้มือฉีกตรงบริเวณเป้ากางเกงในให้เป็นรูใช้มันสำเร็จความใคร่ ก่อนจะนำกางเกงในไปคืนที่ร้านซักผ้า
นายพลชัยเล่าว่าก่อนหน้านี้เขาเคยต้องติดคุก 8 เดือนเพราะคดีขโมยกางเกงในคล้ายๆ กันมาแล้ว เนื่องจากตนเคยมีภรรยาซึ่งมีปัญหาเรื่องมดลูกจึงไม่สามารถมีอะไรกันได้ ทั้งๆ ที่ตนเป็นคนอารมณ์ทางเพศสูง
แต่พอออกจากคุกมาได้ไม่นาน สุดท้ายก็มีเหตุ (บางแหล่งข่าวระบุว่าเพราะเขาเลิกกับภรรยาเมื่อช่วงกลางปี) ทำให้ตนเกิดมีอารมณ์สะสมจนก่อเหตุแบบเดิมอีกจนได้
ทั้งนี้นายพลชัยได้กล่าวไว้ด้วยว่าเขากระทำการไปโดยขาดสติ แถมตอนอยู่ในเรือนจำก็เคยถูกหมอบอกว่าตนเป็นโรคจิตอ่อนๆ แต่ไม่ได้รักษา เพราะไม่มีเงิน จึงอยากขอโทษในสิ่งที่ตนกระทำลงไป และขอสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก
ซึ่งสำหรับเรื่องนี้เอง ผู้เสียหายได้ระบุว่าตนก็บอกว่าตนหวังว่าคนร้ายจะสำนึกผิดจริงและไม่ทำอย่างนี้อีก อย่างไรก็ตามสำหรับคนร้ายก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป