สาวร้องเรียน โอนค่าส่วนกลางคอนโดไปแล้ว แต่โดนฟ้องข้อหาฉ้อโกง เงินไม่เข้าบัญชี

การจ่ายเงินเพื่อชำระค่าใช้จ่ายบางอย่างสามารถทำได้สะดวกและรวดเร็วกว่าแต่ก่อน แถมยังมีหลักฐานการโอนเงินรองรับไว้ด้วย แต่ก็นั่นแหละปัญหามันก็เกิดขึ้นได้แบบไม่คาดคิด แถมยังโดนฟ้องร้องขึ้นเป็นคดีใหญ่โตกับจำนวนเงินที่เสียหายไปมากถึง 3 บาทถ้วน

เรื่องของเรื่องก็มาจาก หญิงสาวรายหนึ่งได้ร้องเรียนกับเพจ Red Skull Motopunk ว่ากันด้วยเรื่องวุ่นๆ ระหว่างลูกบ้านกับนิติฯ คอนโดแห่งหนึ่งย่านเมืองทอง

โดยปกติแล้วทางลูกบ้านจะจ่ายค่าส่วนกลางผ่านแอปฯ ของธนาคาร SCB แต่ช่วงกันยายนของปี 2564 แวะไปแถวนั้นพอดี ทางพี่สาวจึงให้จ่ายกับหน้าเคาท์เตอร์ของคอนโดไปเลย

ที่น่าสังเกตก็คือปกติเคาท์เตอร์จะรับชำระแต่เงินสด แต่เพิ่งเปิดให้ชำระผ่าน QR Code แล้วจะได้ใบเสร็จตามมาช้ามาก ประกอบกับวันนั้นระบบธนาคารล่มพอดี สแกนไป 3 รอบจนได้มีหลักฐานสลิปส่งให้พนักงานถ่ายเก็บไว้

ผ่านไปครึ่งเดือน เธอก็ได้รับหมายเรียกในข้อหา ‘ฉ้อโกง’ พบว่าเป็น นางสาว ร. ไม่รู้ตัวว่าไปโกงเรื่องอะไรตอนไหน พอโทรไปหาตำรวจที่รับแจ้งความก็ไม่ได้คำตอบว่าเป็นใครหรือเรื่องอะไร

เมื่อเธอโทรย้ำไปอีกก็ได้ความว่า ผู้แจ้งความคือพนักงานที่รับชำระเงินค่าส่วนกลางคอนโด จนต้องโทรไปถามบริษัทที่เก็บค่าส่วนกลางของคอนโด เพื่อตามหาพนักงานที่มาแจ้งความ

แต่คนรับสายคือเลขาฯ ที่ไม่รู้เรื่องนี้ จนกระทั่งได้คำตอบกลับมาว่า ให้เป็นไปตามขั้นตอนเพราะเรื่องถึงศาลแล้ว

– ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 เธอจึงเข้าไปให้การกับตำรวจก่อนวันกำหนดในหมายเรียก แต่กลายเป็นว่าต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องมาเคลียร์แทน

– วันที่ 8 ไม่เจอ มาเจอวันที่ 9 ช่วงบ่าย แต่ตำรวจไม่เข้าใจว่าทำไม่ต้องโอนเงินจากธนาคาร TTB ไป TTB จึงต้องมาสาธิตและอธิบายการโอนเงินให้ดู และในวันนั้นเจ้าหน้าที่พยายามติดต่ออีกฝ่ายแต่ไม่มีการรับสาย

-วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์อีกครั้ง เพื่อนำเอกสารมาเป็นหลักฐานทำสำนวน เมื่อไปโอนที่เคาท์เตอร์ นางสาว ร. ไม่อยู่แล้ว เป็นพนักงานคนอื่นแทน

เมื่อโอนเสร็จเธอก็ถามว่ารู้ได้ยังไงว่าโอนเงินเข้าแล้ว พนักงานก็ยื่นโทรศัพท์ให้ดูว่าเงินเข้าแล้วจริง ส่วนตำรวจคนเดิมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโอนเข้าแบบเดิม ต้องมาอธิบายว่าจากบัญชีลูกบ้านโอนเข้าบัญชีชื่ออาคารที่พัก

หลังจากนั้นเธอก็นึกว่าแค่รอตามหมายเรียกว่าอัยการจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง จู่ๆ ที่บ้านก็โทรมาบอกว่ามีตำรวจขู่ว่าหากไม่ไปตามหมายเรียก 2 ครั้งจะมาจับ พอไปสอบถามกับตำรวจก็แจ้งว่าส่งเอกสารตามที่อยู่บัตรประชาชน แล้วก็ที่คอนโด

แต่เธอแย้งว่าที่คอนโดไม่เคยได้รับ แต่ทำไมต้องไปที่บ้าน ฝั่งตำรวจแจ้งกลับมาว่าเดี๋ยวจะจัดการเอง เพราะระบบเอกสารของราชการช้า

ในที่สุดเอกสารทั้งหมดที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานหนาเป็นปึก รายละเอียดเนื้อหาที่ระบุว่าฉ้อโกงนั้น คือค่าเสียหาย 3 บาท ที่เป็นค่าใบเสร็จที่พนักงานคนแรกให้เธอมา

จนถึงตอนนี้เธอต้องวนเวียนไปมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี 4 ครั้ง และกลายมาเป็นผู้ต้องหากับคดีฉ้อโกง มูลค่าความเสียหาย 3 บาท