หมอเหรียญทองเผย ฝืนใจเชียร์ ‘พลังประชารัฐ’ ไม่ไหวแล้ว ขอยืนข้าง ‘ไทยภักดี’ เยี่ยงชาวบางระจัน
หากพูดถึงหนึ่งในคนเชียร์รัฐบาลชุดปัจจุบันที่เป็นคนดังในหน้าสื่อ หนึ่งในนั้นก็คือ พล.ต. นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ที่ก่อนหน้านี้แสดงออกสนับสนุนรัฐบาลลุงตู่เต็มตัว เช่นการร่วมกิจกรรมเดินเชียร์ลุงที่จัดขึ้นเมื่อสองปีก่อน เป็นต้น
แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (13 มกราคม 65) หมอเหรียญทอง ได้ออกมาเผยผ่านเฟซบุ๊กตนเองว่า ไม่สามารถเชียร์พรรคพลังประชารัฐต่อไปได้แล้ว เพราะรับไม่ได้พรรคเป็นเหมือนที่คุ้มหัวให้นักการเมืองเลวๆ พร้อมยกกรณีของ สิระ เจนจาคะ ที่เป็นนักโทษทุจริตมาเป็นตัวอย่าง
พร้อมประกาศว่า ขอยืนหยัดเด็ดเดี่ยวสนุนพรรคเล็กๆ อย่าง ‘ไทยภักดี’ เยี่ยงชาวบ้านบางระจัน
และเสริมว่าแม้จะเคารพบิ๊กป้อมมากก็ตาม แต่ขอสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ ผ่านพรรคไทยภักดีแทน ถึงจะเป็นการตัดคะแนนและแพ้พลังประชารัฐ ก็ไม่เป็นไร เพราะคำนึงถึงศักดิ์ศรี ยังดีเสียกว่าศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทยไปฝืนใจเลือกพลังประชารัฐ
โดย หมอเหรียญทอง ได้โพสต์ข้อความเต็มระบุเอาไว้ดังนี้ว่า…
“ปัญหาการอภัยโทษให้นักโทษทุจริตประพฤติมิชอบซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรอันเป็นกฎหมายสูงสุดย่อมกระทำไม่ได้นั้น แต่กลับไม่มีพรรคการเมืองใดในสภา ทั้งพรรคฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่อต้าน ทั้ง ๆ ที่เป็นผลงานในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรมที่นักการเมืองจากพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐมนตรี
จึงเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพรรคการเมืองในสภาไม่จริงจัง ไม่ใส่ใจในการขจัดปัญหาทุจริตประพฤติมิชอบ แต่กลับอำนวยประโยชน์ช่วยเหลือนักโทษคดีทุจริตประพฤติมิชอบให้ได้รับการอภัยโทษ ลดโทษอย่างมหาศาลโดยกระทรวงยุติธรรมที่เป็นกระทรวงในความรับผิดชอบของพรรคพลังประชารัฐ
ผมต่อต้านอย่างถึงที่สุด ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐที่ผมเคยสนับสนุนอย่างสุดกำลัง กลับนิ่งเฉยดูดายปล่อยให้เงียบไป เพราะสังคมไทยเป็นสังคมของคนลืมง่าย ดูง่าย ๆ แค่การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. หลักสี่-จตุจักร ที่เกิดจากอดีตนักโทษฉ้อโกงทรัพย์แอบลักลอบสมัครเป็น ส.ส. จนถูกตรวจสอบได้และส่งฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญจนต้องเลือกตั้งซ่อมใหม่ พรรคพลังประชารัฐ ก็ยังคงดูถูกชาวหลักสี่-จตุจักร ด้วยการส่งภริยาของผู้กระทำความผิดลักลอบเป็น ส.ส. มาให้ประชาชนเลือกซ้ำอีก…พูดง่าย ๆ ดูถูกชาวหลักสี่-จตุจักรชิบหายเลยนะครับ
ผมเป็นชาวหลักสี่เกือบ 50 ปีแล้ว โดยส่วนตัวแล้ว ผมเคารพรักพี่ป้อมในฐานะที่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของผมมานานกว่า 35 ปีแล้ว แต่ผมจำใจเลือกพรรคพลังประชารัฐที่อาศัยพี่ป้อมเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อคุ้มหัวให้นักการเมืองเลว ๆ อย่างนี้อาศัยต่อไปอีกไม่ได้แล้ว…ผมทราบดีว่า พี่ป้อมเป็นคนมีเมตตาสูง แต่จะให้ผมน้อมรับไอ้อีพวกรอบข้างอาศัยพี่ด้วยนั้น ผมไม่เอาด้วยครับ
พี่ป้อมสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ ด้วยการให้ประชาชนเลือก…แต่ต่อไปนี้ประชาชนที่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ แต่ไม่ฝืนใจ ไม่จำใจเลือกพรรคพลังประชารัฐอย่างผม จะเลือกพรรคไทยภักดีเพื่อสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ แทนครับ ถึงแม้จะเป็นการตัดคะแนนกันแล้วต้องพ่ายแพ้ ก็ยังดีเสียกว่าศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทยอย่างผมจำต้องฝืนใจจำใจยินยอมกับพรรคพลังประชารัฐ
ผมยังเคารพรักพี่ป้อมเสมอในฐานะผู้บังคับบัญชา แต่ไม่เอาด้วยกับพรรคของพี่ครับ
พรรคไทยภักดีจะพ่ายแพ้หรือไม่ ผมก็จะยืนหยัดเด็ดเดี่ยวเคียงข้างพรรคเล็ก ๆ พรรคนี้เยี่ยงชาวบ้านบางระจัน ขอให้พรรคไทยภักดีทราบทั่วกันว่าผมร่วมเป็นร่วมตาย ไม่ว่าจะพ่ายแพ้ก็ตามจงภูมิใจศักดิ์ศรีของ ‘ไทยภักดี’
30 ม.ค. นี้ ชาวหลักสี่-จตุจักรที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี พร้อมใจรวมพลังกันเลือก ส.ส. หมายเลข 1 จากพรรคไทยภักดี กันนะครับ หากไทยภักดีจะพ่ายแพ้ก็ไม่เป็นไร ให้คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นคนไทยภายใต้รัฐธรรมนูญที่พรรคพลังประชารัฐเพิกเฉยให้มีการอภัยโทษนักโทษทุจริตประพฤติมิชอบอย่างขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งยังดันทุรังให้เลือกตั้งซ่อมให้จำใจต้องเลือกเมียผู้กระทำความผิดกฎหมายซ้ำเสียอีก”
ที่มา :
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=7555166417842999&id=100000491468200