เมื่อข้าวของทยอยพากันขึ้นราคากันหมด ทีนี้ก็มาถึงเรื่องของการตรวจราคาจากหน่วยงานรัฐ หลังจากที่มีการร้องเรียนว่าสินค้านั้นสินค้านี้ขายแพงเกินกำหนด เมื่อลงไปตรวจสอบก็เจอกับสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 หลังจากที่เจ้าหน้าที่จากกรมการค้าภายในไปตรวจสอบเรื่องร้องเรียนที่รับมาจากสายด่วน เรื่องขายไข่ไก่เกินราคาที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่พบแผงขายไข่ไก่ 1 ร้านที่ขายราคาแพงกว่าร้านอื่นทั้งในตลาดเดียวกันและตลาดอื่น จนต้องแจ้งข้อกล่าวหากับแม่ค้าเจ้าของแผงด้วยมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แม่ค้าเจ้าของแผงขายไข่ไก่ถึงกับร้องไห้พร้อมกับบอกว่า “กูไม่ขายแล้ว กูเลิก กูไม่ขาย กูไม่ไหวแล้ว ถ้าอย่างงี้กูไม่เอาแล้ว” เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมบอกว่า “บางทีมันอาจจวิกฤตก็ได้” โดยก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่อีกคนบอกว่า “ถ้ามีเหุตผล มีต้นทุน มีบิล มีหลักฐานว่าซื้อมายังไง ถึงได้ขายในราคานี้”
ส่วนแม่ค้าร้านข้างๆ ก็ได้พูดถึงเรื่องภาษีที่โดนเก็บไป แล้วจะหากำไรจากตรงไหน “คนทำมาหากินก็มาโดนเบียดเบียนแล้วจะไปเหลืออะไร ไหนจะภาษีอีก ก็มาเบียดเบียนแล้วจะไปเอากำไรตรงไหน”
ด้านเจ้าหน้าที่ของตลาดฯ ก็บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า “มาอย่างนี้ตลาดประชานิเวศน์แย่เลย ยิ่งคนไม่เดินมาอย่างนี้แย่เลย ไม่ให้โอกาสผู้ค้าเลยเหรอคะท่าน”
เจ้าหน้าที่จากกรมการค้าภายในพยายามอธิบายว่า ทางหน่วยงานได้รับร้องเรียนมาจึงต้องมาตรวจสอบตามหน้าที่ เมื่อเจอก็ต้องดำเนินการ สินค้าอื่นๆ ก็ดำเนินการหมด ไม่ได้มาจับเฉพาะไข่ไก่ขายแพงเกินราคาอย่างเดียว
ส่วนความคิดเห็นของชาวเน็ตบางส่วนที่มีต่อประเด็นนี้ ต่างก็มองไปในทิศทางที่ว่าหน่วยงานรัฐกำลังแก้ปัญหาไม่ตรงจุด สงสารแม่ค้าที่ทำมาหากิน ในมุมมองของคนค้าขายยิ่งทำให้ขายได้ลำบากมากขึ้น
“สงสารทั้งพ่อค้าแม่ค้า ทั้งลูกค้า พูดยากเพราะต้นตอปัญหามันมาจากอะไรก็รู้ๆกันอยู่”
“เขารับมาแพง เลยขายเอากำไรบ้าง พอขายเกินราคาจับแม่ค้า ใช้อะไรคิดเนี่ย ถามว่า แล้วตอนที่ใครกักตุนไม่จับละ คนขายปกติจับ ไม่แปลกหลอกที่จะโดนเขาต่อว่า เจ้าหน้าที่รัฐทำงานไม่เป็นแก้ปัญหาไม่ได้… จะค่อยให้แต่ชาวบ้านดูถูกมีสมองแค่นี้ หมูแพงไล่ไปเลี้ยงไก่ น้ำท่วมให้ไปเลี้ยงปลา มันถึงเป็นอยู่แบบนี้ละ”
“เจ้าหน้าที่ควรไปดูที่่ต้นทางซิ มาจับเอาแม่ค้าพ่อค้า ไม่มีใครอยากจะขายแพงหรอกครับ แต่ถ้่ารับมาแพงต้นทุนสูงจะให้ขายขาดทุนหรือ สงสาร เห็นใจ พ่อค้าแม่ค้า”
“แก้ที่ปลายเหตุ เค้ารับมาแพงก็ต้องขายแพง คนเรารับแพงขายถูกจะรับมาขายเพื่อ!!!! ต้นเหตุหลักๆคือปัจจัยการผลิตแพงทุกอย่าง ราคาอาหารสัตว์ราคาสูง ทั้งๆที่วัตถุดิบในการผลิตอาหารรับซื้อจากเกษตรกรเท่าไรราคาถูกปานขี้”
“เราเห็นใจแม่ค้านะ ยิ่งร้านขายปลีกเล็กๆยิ่งน่าสงสาร กำไรแผงละไม่กี่บาท อย่างร้านที่บ้านไปรับคละเบอร์ที่อำเภอมาแผงละ95 มาขายแผง 110 ขายปลีก 5ฟอง 20 กว่าจะขายได้กำไรมาแต่ละบาทคิดเอา เราคนซื้อจึงไม่ตำหนิร้านค้าปลีกเลย”
ในขณะเดียวกันความคิดเห็นของชาวเน็ตอีกฝั่ง ต่างก็มองว่าเจ้าหน้าที่ทำถูกต้องแล้ว คนขายของเกินราคาสมควรโดนดำเนินการตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้นจะเป็นการฉวยโอกาสเอากำไร
“สมควรจับ เวลาไม่โดนก็ฉวยโอกาสขึ้นเอาๆ แทบทุกเจ้า ของกินเวลาขึ้นจะไม่มีลง ของกินบางครั้งรับมาขายก็ยังแยกไซส์เอากำไรได้อีก บางครั้งแพงขึ้นได้น้อยลงไม่ได้ให้สมราคาเงินที่ซื้อแพง ไม่ว่าของจะถูกลงก็ตาม ขึ้นแล้วขึ้นเลย ขอให้โดนทุกเจ้า
แล้วแม่ค้าจะโวยทำไมว่าขายไม่ดี ขายได้น้อยลง ทุกวันลูกค้ากินเพื่ออยูู่ ไม่อยู่เพื่อกิน เขาคงตามจับทุกคนนั้นแหละ จะเจอแม่ค้าคนไหนก่อน”
“ดีแล้วครับ ต้องลงโทษเป็นมาตรฐาน ไม่ใช่ว่าจะแกล้งป้า แต่จากข่าวคือป้าขายแพงกว่าแม่ค้าคนอื่น แม่ค้าคนอื่นเขาก็โดนผลกระทบเหมือนกัน แต่เขาไม่ขายแพงแบบป้า เข้าใจว่าสงสารป้า แต่เราเป็นคนซื้อ ผู้บริโภคได้ประโยชน์ในเคสนี้”
“เจ้าหน้าที่ก็พูดชัดอยู่นะครับ ว่าเอาหลักฐานมาดูว่าคุณซื้อมาอีกทีจากหน้าฟาร์มเท่าไหร่ ???
แต่ถ้าคุณรับมาถูก หรือ ปรับขึ้นไม่เยอะ แต่คุณเอามาขายแพงให้ผู้บริโภค คุณก็จะผิดฐานขายสินค้าเกินราคาไงครับ
ตกใจ หรือ เสียใจที่ตัวเองขายเกินราคาจริงๆรึเปล่าครับ คุณป้า ??? ตอนนี้ คนกลาง แม่ค้าปลีก น่ากลัวกว่า ฟาร์ม หรือ เกษตรกร นะ”
ฟังเสียงแม่ค้าจากคลิปรายการเรื่องเล่าเช้านี้
ติดตาม CatDumb ได้ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.CatDumb.com
Youtube: www.youtube.com/c/CatDumbTV-Youtube
Instagram: www.instagram.com/catdumbnews/
TikTok: www.tiktok.com/@CATDUMBtv