จากกรณีโลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของเด็กหญิงรายหนึ่ง ที่พยายามแบกกระเป๋าหนักอย่างทุลักทุเลจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น
ล่าสุดมีการเปิดเผยความจริงออกมาแล้วว่าของที่อยู่ในกระเป๋าไม่ใช่หนังสือ แต่เป็นนมโรงเรียน 1 ลัง
จากรายงานข่าวบอกว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวเป็นเด็กนักเรียนชั้นป.1 โรงเรียนบ้านปากละงู ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งกำลังจะเดินกลับบ้านที่อยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 1 กิโลเมตร
น.ส.สุชาดา หัดหวัง แม่ของเด็กกล่าวว่า สิ่งที่อยู่ในกระเป๋านักเรียนนั้นไม่ใช่หนังสือเรียน แต่เป็นนมโรงเรียน 1 ลัง (ประมาณ 36 กล่อง) และมีหนังสือเรียนอยู่แค่ 4 เล่มเท่านั้น
คุณแม่ยังกล่าวอีกว่า ในวันที่เกิดเหตุการณ์ทางโรงเรียนให้เรียนแค่ครึ่งวัน ปรกติแล้วในวันที่มีการแจกนมแบบนี้ตนจะไปรับลูกที่โรงเรียนทุกครั้ง
แต่วันนั้นไปรับลูกที่โรงเรียนแต่ไม่พบก็ตกใจไม่คิดว่าลูกจะแบกนมเดินกลับเอง ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็ออกจากโรงเรียนและเจอลูกนั่งรออยู่ตรงที่ออกกำลังกายเพราะหมดแรง
ส่วนทางด้านเด็กหญิงกล่าวว่า เธอได้เอานมใส่กระเป๋าหลังเพราะยังมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่เยอะ แต่เมื่อเดินออกจากโรงเรียนแล้วรู้สึกหนัก พยายามแบกใส่หลังแต่ก็ทำไม่ได้
ด้านครูเวรของโรงเรียนบอกว่า ในวันที่มีการแจกนมได้เอานมวางไว้ใต้อาคารเรียนเพื่อให้ผู้ปกครองมารับ เพราะเด็กถือไม่ไหว แต่เด็กคนดังกล่าวกลับเอานมใส่กระเป๋ากลับเพราะความดีใจ
เมื่อเด็กเดินออกไปอาจจะหมดแรงตามที่เห็นในคลิป เพราะนม 1 ลัง หนักมากสำหรับเด็กป.1 นอกจากนี้คุณครูยังได้แสดงความเป็นห่วง แต่โชคดีที่เด็กไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วของในกระเป๋าจะไม่ใช่หนังสือเรียนแต่เป็นนม 1 ลัง แต่ความเป็นจริงก็คือยังมีเด็กไทยที่แบกกระเป๋าหนักจริง
อย่างล่าสุดทาง WorkpointTODAY ได้ลงพื้นที่สำรวจน้ำหนักในกระเป๋าของเด็กๆ ก็พบว่ายังมีบางคนที่แบกกระเป๋าหนักอยู่
ในความเห็นของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การแบกน้ำหนักที่มากเกินไปส่งผลเสียต่อเด็กในระยะยาว เด็กไม่ควรแบกกระเป๋าที่มีน้ำหนักเกินกว่า 15% ของน้ำหนักตัว ดีที่สุดคือ 10%