ตอนนี้มีกระแสดราม่าที่น่าสนใจบนโลกออนไลน์ เมื่อโรงเรียนชื่อดังอย่าง “โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ตกเป็นที่จับตามอง หลังจากนำเสนอเรื่องการเรียนการสอนที่พัฒนาไปมากกว่าหลักสูตรในโรงเรียนธรรมดาทั่วไป
ดราม่าเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นจากไหน และมีอะไรที่เราควรรับทราบบ้าง แคทดั๊มบ์จะสรุปให้เป็นการเบื้องต้นครับ..
โรงเรียนกลายเป็นกระแสดังบนโลกออนไลน์
ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สื่อหลายแห่งเริ่มนำเสนอเรื่องหลักสูตรของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ซึ่งทางผู้บริหาร รศ.ดร.อนุชาติ พวงสำลี เปิดเผยว่าต้องการทำโรงเรียนในความหมายใหม่ ที่สอนหลักสูตรก้าวทันโลก ทำให้เด็กนักเรียนรู้สึกมีความสุขที่ได้มาเรียน
ตัวอย่างโพสต์ที่กลายเป็นกระแสไวรัล
ยกตัวอย่างเช่น..
– การไม่ต้องใส่เครื่องแบบ ไม่สนใจเรื่องทรงผม หรือสีผม
– การไม่จำเป็นต้องทำความเคารพครูทุกคน อยู่ที่ตัวนักเรียนเอง
– ไม่ต้องมาเคารพธงชาติสวดมนต์ทุกเช้า แต่ใช้เวลากับการโฮมรูมเพื่อสื่อสารกับนักเรียนแทน
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการจัดหลักสูตรในรูปแบบของตัวเอง ผ่านการศึกษาดูงานจากหลักสูตรในต่างประเทศ หลักสูตรนานาชาติ รวมถึงหลักสูตรของไทย เพื่อสร้างหลักสูตรเฉพาะขึ้นมา
อย่างเช่น วิชาลูกเสือเนตรนารี ถูกแทนที่ด้วยวิชาเอาตัวรอดที่ทันสมัยขึ้น หรือวิชาเพศศึกษา ถูกปรับเปลี่ยนเป็นวิชาวัยรุ่นศาสตร์ ที่สอนให้เข้าใจได้อย่างชัดเจนและรอบด้าน
ตัวอย่าง 8 วิชา จากโรงเรียนสาธิตธรรมศาสตร์
มีทั้งเสียงต่อต้าน และเสียงสนับสนุน
แน่นอนว่าเมื่อเรื่องราวถูกนำเสนอไป ย่อมมีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว นำไปพูดคุยต่อ กลายเป็นประเด็นดังยิ่งขึ้นอีกบนโลกออนไลน์
เหตุผลหลักๆ ของฝั่งสนับสนุน ก็มองว่าเมื่อได้อ่านทั้งหลักสูตร ระบบโรงเรียน และแนวคิดของผู้บริหารแล้ว เป็นการศึกษาแบบก้าวนำและก้าวทันโลก
หลายคนมองว่า หลักสูตรการศึกษาของไทยในปัจจุบันนั้นยังมีหลายจุดที่ต้องปรับปรุง และโรงเรียนดังกล่าวก็ปรับปรุงขึ้นมาได้อย่างดี
ในขณะที่ฝั่งไม่เห็นด้วย ก็มองว่าบางอย่างนั้นเป็นเรื่องรับไม่ได้ เช่น การไม่มีเครื่องแบบ ไม่มีทรงผม อาจจะทำให้เด็กขาดระเบียบวินัย
หรือกระทั่งการสอนที่เปิดกว้างเกินไป อาจจะทำให้เด็กเติบโตมาไม่เคารพวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม หรือปลูกฝังความเชื่ออะไรผิดๆ ลงไปก็เป็นได้
ตัวอย่างคอมเมนต์ที่ไม่เห็นด้วย
นายกฯ สั่งจับตา กลัวมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์-สถาบัน
พอเป็นกระแสดังขึ้นมา ดังไปจนถึงหูของนักการเมือง นักข่าวก็เลยนำเรื่องดังกล่าวถามกับนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก เพราะดูนายกฯ จะไม่ค่อยโอเคกับหลักสูตรเท่าไร
โดยทางนายกฯ ระบุว่าได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปจับตาดูในกรณีดังกล่าวอยู่ เพราะมีบางส่วนห่วงใยว่าอาจจะมีเนื้อหาบิดเบือนประวัติศาสตร์และสถาบัน
นอกจากนี้ ในเรื่องของหลักสูตรการศึกษาทั่วไปของไทย ก็ได้กำหนดนโยบายผ่านกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ไว้ดีอยู่แล้ว มีส่วนที่ต้องปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สาธิตธรรมศาสตร์ Strike Back!!
หลังจากมีเสียงสะท้อนจากนายกฯ ออกมาแบบนั้น ทางคุณปริญญา เทวานฤมิตรกุล อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ออกมาโต้กลับถึงเรื่องดังกล่าวในวันต่อมา
โดยเขาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าตอนนี้การศึกษาไทย มีปัญหาคือสอนให้ท่องจำแบบไม่ต้องคิด เป็นการศึกษาแบบอำนาจนิยม ไม่ช่วยให้ประเทศก้าวหน้า
โรงเรียนสาธิตธรรมศาสตร์นั้น ต้องการสอนให้นักเรียน “คิด” และ “รับผิดชอบ” ต่อทั้งตัวเองและผู้อื่น ซึ่งต่างไปจาก “สิ่งที่นายกฯ ได้เรียนมา”
ซึ่งเขายังปิดท้ายว่านายกฯ อาจจะไปฟังมาผิด หรือไม่เข้าใจสิ่งที่โรงเรียนสอน จึงมองว่าสาธิตธรรมศาสตร์บิดเบือนประวัติศาสตร์และสถาบัน
อ่านโพสต์เต็มๆ ของคุณปริญญา
จากนั้นทางโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกคำแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวตามมา
โดยระบุว่าข้อมูลที่นำเสนอในสื่อและที่เป็นดราม่า อาจจะทำให้เกิดความสับสน และลดทอนคุณค่าความมุ่งมั่นของโรงเรียน จึงขอชี้แจงมา 3 ข้อ โดยสรุปว่า
1. โรงเรียนให้ความสำคัญกับการเคารพความหลากหลาย เพื่อพัฒนาหลักสูตรที่เตรียมความพร้อมให้เยาวชนไทย พร้อมสำหรับการเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก ที่พร้อมใช้วิจารณญาณเผชิญความเปลี่ยนแปลง
2. โรงเรียนได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลักสูตรที่ทันสมัย ครอบคลมสาระการเรียนรู้ในแต่ละช่วงชั้น และนอกจากนี้ ยังสอนวิชาอื่นๆ เพิ่มเติมที่ใช้ได้ในชีวิตจริง เช่น วิชาว่ายน้ำเพื่อเอาตัวรอด วิชารู้ทันการเงิน วิชาผู้ประกอบการ เป็นต้น
3. โรงเรียนมีเป้าหมายในการสร้างจิตสำนึกให้นักเรียน ให้รู้จักวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ เข้าใจผู้อื่น สามารถทำงานเป็นทีม ผ่านกระบวนการการเรียนรู้ในชั้นเรียน
อ่านคำประกาศของโรงเรียน ได้ในภาพด้านล่างนี้….
เรียบเรียง #ประธานเหมียว
2 Comments
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ถ้าเยาวชนไทยหลงผิด คิดว่าผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ถ้าลอกเลียบแบบ ทำตัวมีจิตใจคับแคบ เป็นกบอยู่ในกะลา ใช้อำนาจบาตรใหญ่ มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ประเทศชาติคงถอยหลังลงคลองในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า ไม่ใช่เพราะพวกเขาด้อยสติปัญญาความสามารถ แต่ต้องโทษคนรุ่นปัจจุบัน โดยเฉพาะท่านๆ ผู้นำ ที่หลายคนอาจอยู่ไม่ทันเห็นลูกหลานเจริญรอยตาม “ความด้อยปัญญา” ที่ท่านๆ ได้ฝั่งไว้ในดีเอนเอของเยาวชนไทยในวันนี้ …อนิจจาประเทศไทย
เป็นหลักสูตรที่ดีทันสมัยอยู่ในโลกของความจริง