“รังสิมันต์ โรม” แฉขบวนการค้ามนุษย์กลางสภา ตำแหน่งใหญ่เอี่ยวเพียบ ซ้ำทำตำรวจดีขอลี้ภัย

กลายเป็นประเด็นร้อนระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เลยค่ะ เมื่อ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมากล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลที่ปลูกฝังระบบปรสิต

แถมยังกล่าวถึงเหล่าเจ้าหน้าที่รัฐที่มีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์อีกด้วย

โดยเริ่มต้น โรมได้เผยถึงรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทยที่ถูกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาลดระดับประเทศไทยจาก Tier 2 ไปอยู่ในกลุ่ม Tier 2 Watch List ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกือบแย่ที่สุด

การลดระดับในครั้งนี้เกิดจากการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายระหว่างชายแดนไทย-เมียนมา และได้รับการสนับสนุนจากเหล่าเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

จากนั้นโรมก็ได้กล่าวถึงความพยายามปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา ที่กลายเป็นคดีระดับชาติ และเป็นหนึ่งในคดีที่ทำให้สถานการณ์การค้ามนุษย์อยู่ในระดับ Tier 2 Watch List

โดยเขาได้อ้างถึง พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ผู้เป็นอดีตหัวหน้าชุดทำคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ที่ออกมาเปิดโปงคดีนี้

แต่สุดท้ายกลับต้องขอลี้ภัยไปอยู่ออสเตรเลีย เนื่องจากถูกกดดันจากผู้มีตำแหน่งใหญ่จากการที่เขาออกหมายจับ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก

นอกจากนี้ โรมยังเผยอีกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นคนที่สั่งย้าย พล.ต.ต.ปวีณ ไปยังเขตพื้นที่ชายแดนใต้ที่เป็นแหล่งอิทธิพลขององค์กรค้ามนุษย์ ซึ่งเปรียบเสมือนคำสั่งให้ไปตาย ทำให้ พล.ต.ต.ปวีณ ต้องขอลี้ภัยอย่างเลี่ยงไม่ได้

โรมได้ตั้งข้อสงสัยว่า การที่สั่งย้าย พล.ต.ต.ปวีณ เป็นการตัดปัญหาไม่ให้มีการสืบสาวผู้ต้องหาคนใหญ่คนโตหรือไม่

หลังจากที่การอภิปรายได้จบลง ทางเพจหลักพรรคก้าวไกลก็ได้ออกมาโพสต์คลิปสรุปเนื้อหาทุกอย่างที่โรมกล่าวในสภา จนทำให้ตอนนี้เกิดแฮชแท็ก #ประชุมสภา ขึ้นบนโลกทวิตเตอร์ และมีคนพูดถึงเรื่องนี้ไปแล้วมากกว่า 200,000 ครั้งเลยทีเดียว

ชมคลิปได้ด้านล่างนี้เลย

นี่คือด้านตรงข้ามของคนที่ได้ #ตั๋วช้าง ถ้าไม่เข้าวังก็จะไม่ได้ดี ต้องมีอันฉิบหายวายวอดกันไป อีกหนึ่งผลงานระบอบปรสิตกัดกินทุกโครงสร้างองค์กรสถาบันของประเทศ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของไม่กี่คนในประเทศนี้#ตำรวจเลวได้ดีตำรวจดีต้องลี้ภัย

อ่าน https://t.co/7moASSjzKr pic.twitter.com/3Y44j3I0xH

— พรรคก้าวไกล – Move Forward Party (@MFPThailand) February 18, 2022