รังสิมันต์ โรมจากนักเคลื่อนไหว 9 คดี สู่ ส.ส. รุ่นใหม่ไฟแรง
– จุดเริ่มต้น
รังสิมันต์ โรม (ชื่อเล่น โรม) โตที่ จ.นครศรีธรรมราช สนใจการเมืองตั้งแต่เด็ก เพราะคนใต้ชอบพูดถึงเรื่องการเมือง เลยซึมซับมาตลอด
“ผมจำได้ว่าตอนเด็กเดินไปบ้านตรงข้าม ไปกินข้าวเมาท์มอยตามประสาผู้ใหญ่ ผมตัวเล็กมากนอนหนุนตักแม่ฟังที่บ้านคุยเรื่องการเมืองว่าทักษิณขึ้นมาเป็นนายกฯ มันแย่ยังไง ทักษิณรวยผิดปกติไหม เราไม่ควรที่จะสนับสนุนคนแบบนี้ หรือพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองของคนใต้ เราต้องสนับสนุนพวกพ้อง”
“ถ้าคุณไปดูหนังตะลุง คุณจะเห็นเขาล้อเลียนนายกรัฐมนตรี ยุคทักษิณโดนหนักเลย” โรมกล่าวกับ a day magazine
– ปี 2553
เข้ามาเรียนสาขานิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เพราะสนใจการเมือง คิดว่าคนรอบข้างในธรรมศาสตร์ตอนนั้นจะสนใจการเมือง แต่คิดผิด พอเริ่มคุยเรื่องการเมืองทุกคนมองเหมือนเป็นตัวประหลาด
กระทั่งได้ไปเจอกลุ่มที่สนใจการเมืองเหมือนกันในช่วงนี้มีการรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 และได้เข้ากลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง
– ปี 2557
ได้เกิดรัฐประหารขึ้น ทำให้การทำกิจกรรมการเมืองเริ่มยากขึ้น แต่ก็ทำให้โรมเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้น ถูกจับตามองมากขึ้น และได้กลายเป็นแกนนำของกลุ่ม
ทีแรกคิดว่าใกล้เรียนจบแล้ว จะเลิกเป็นแกนนำ แต่มีวันที่นัดไปทำกิจกรรมรวมตัว 15 นาที ที่หอศิลป์ กลับเจอเพื่อนถูกตำรวจฉุดกระชาก เลยอารมณ์ขึ้น คิดว่าตำรวจและทหารทำไม่ถูก เลยไปสู้ฉุดกระชากกับตำรวจ เกิดเป็นภาพที่ทำให้โด่งดัง
สุดท้ายสู้ไม่ได้ ถูกจับขัง 12 ชม. โดนคดี จากที่จะวางมือจะเรียนจบแล้วไปเป็นทนาย เลยเป็นแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวต่อไป
– ปี 2558 – 2561
โรมยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป ทั้งรวมตัวต่อต้าน คสช. รวมตัวรณรงค์ให้เลือกตั้ง และอื่นๆ จนถูกแจ้งข้อหาติดตัว 9 คดี เริ่มออกสื่อบ่อยจนเริ่มดังในแวดวงการเมือง
เคยถูกนำไปขึ้นศาลทหาร ฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ การต้องไปเป็นนักโทษทำให้โรมถึงกับร้องไห้ว่าทำไมต้องมาโดนแบบนี้
แต่ก็ไม่ยอมประกันตัว เพราะจะไม่ยอมเสียเงินให้ คิดว่าศาลต้องยอมจำนนต่อความยุติธรรมที่เขาสมควรได้ สุดท้ายศาลก็ปล่อยตัวหลังอยู่ครบ 12 วัน โดยไม่ต้องประกันตัว
– ปี 2561
หลังรัฐประหารมา 4 ปี คิดว่าต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว ไม่งั้นทุกอย่างมันก็วนซ้ำซากเหมือนเดิม จึงเข้าสู่เส้นทางการเมือง สมัครเข้าพรรคอนาคตใหม่เพราะมุมมองของ อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล
จากนั้นโรมก็ได้ขึ้นเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 16 จากการเลือกตั้งปี 2562 ตั้งใจว่าอยากเป็นนักการเมืองที่พูดอย่างทำอย่าง
– 2563
ได้ตั้งกระทู้ถามในสภา กรณีอุ้มหาย ‘วันเฉลิม’ เพราะรัฐบาลไม่ดำเนินการอะไรเลย
“รัฐบาลช่วยตอบให้ประชาชนสบายใจได้หรือไม่ว่า ไม่มีบุคลากรที่กินภาษีแผ่นดินคนใดเกี่ยวข้องกับการอุ้มหายครั้งนี้?”
“บุคคลที่ประชาชนเขาตั้งคำถาม รู้กันอยู่ว่าใคร ตอบให้ชื่นใจได้หรือไม่ว่าเขาไม่ได้ทำ?”
– 2564
เปิดเผยเรื่อง ‘ตั๋วช้าง’ ระบบใช้อำนาจและเส้นสาย ที่เอื้อผลประโยชน์ให้ตำรวจบางนายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่โดนเบรกจนต้องไปอภิปรายต่อนอกสภา
อ่านรายละเอียดได้ที่ : https://www.catdumb.tv/elephant-tickets-339/
– 2565
เปิดเผย ‘ตั๋วช้างภาค 2’ ตำรวจที่ตามคดีค้ามนุษย์ถูกอิทธิพลมืดภายในกดดันจนต้องลี้ภัยออกประเทศ
อ่านรายละเอียดได้ที่ : https://www.facebook.com/CatDumbNews/posts/5100091010033647
จากเรื่องราวทั้งหมดที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทำให้หลายคนชื่นชมรังสิมันต์ โรม ว่าเป็น ส.ส. ที่ทำหน้าที่ได้คุ้มค่าขึ้นเงินที่สุดคนหนึ่งเลยครับ
ที่มา :
https://adaymagazine.com/rangsiman-rome-interview
https://pridi.or.th/th/content/2021/10/851
https://hris.parliament.go.th/ss_detail.php?sapa_id=82&ssp_id=21293&lang=th
https://www.matichon.co.th/politics/news_1537653