ดราม่าจากคลิปติ๊กต็อกของหมอหนุ่มรายหนึ่งที่ทำคลิปในแนวติดตลกแซวเล่นขำๆ เพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากชาวเน็ต แต่กลับกลายเป็นว่าชาวเน็ตไม่ตลกด้วย แถมยังมองว่าเหมาะสมมากแค่ไหนที่มาทำคอนเทนต์แบบนี้
เรื่องนี้เริ่มเป็นประเด็นหลังจากบนทวิตเตอร์ได้มีการนำคลิปติ๊กต็อกของหมอหนุ่มรายนี้มาพูดคุยกัน
คลิปดังกล่าวเริ่มต้นจากการที่หมอยิ้มให้กล้อง และซ่อนมือไว้ด้านหลัง มีแคปชั่นประกอบบนคลิปว่า “เด็กดื้อต้องโดนอะไรนะ” ก่อนที่จะเผยให้เห็นในมือเป็นคีมปากเป็ดที่ซ่อนเอาไว้
อุปกรณ์ดังกล่าวคือ คีมปากเป็ดมีจุดประสงค์ไว้ใช้ถ่างขยายช่องคลอด เพื่อตรวจภายในของหญิงสาว หลังจากนั้นข้อความก็ขึ้นต่อมา “โดนแหกไงล่ะ” จึงเป็นเหตุที่ทำให้ชาวเน็ตหลายคนรู้สึกไม่พอใจ และทำให้กระแสตีกลับในแทบจะทันที
เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตออกไปในแนวทางเดียวกันว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็รู้สึกกลัวการตรวจภาภยในอยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหมอรายนี้นำมาเล่นเป็นเรื่องตลก ทำแบบนี้ผิดทั้งจริยธรรมและผิดมารยาท
แถมยังทำให้ผู้หญิงบางส่วนรู้สึกไม่ดีและไม่ปลอดภัยเมื่อต้องไปตรวจภายในกับหมอผู้ชาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
ชาวเน็ตยังระบุเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาคุณหมอหลายท่านพยายามสื่อสารเรื่องตรวจภายในกับผู้หญิงว่าไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว แต่พฤติกรรมของหมอรายนี้ทำให้ความพยายามของหมอท่านอื่นสูญเปล่า แถมยังพบว่าเป็นเพียงแค่หมอฝึกหัดเท่านั้นเองด้วย
อย่างไรก็ตาม บนติ๊กต็อกของแพทย์ฝึกหัดรายนี้ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยระบุเอาไว้ว่า…
“ผมขอโทษครับที่ทำคอนเทนต์ไม่สุภาพต่อไปปจะระมัดระวังให้มากขึ้นและจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ตอนนี้ผู้ใหญ่ได้มีการตักเตือนแล้วแล้ว ขอโทษทุกคนจากใจครับ”
ทางด้านเลขาธิการแพทยสภา พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีด้วยเช่นกัน หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาถึงแพทยสภา จากการที่มีผู้อ้างว่าเป็นแพทย์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่พบชื่อหมอคนดังกล่าวในทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา จนกระทั่งพบว่าเป็นแพทย์ฝึกหัดที่จบจากต่างประเทศ และฝึกงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยยังรอสอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมอยู่
ทางแพทยสภาจะติดต่อประสานงานไปยังหน่วยฝึกงานของแพทย์ฝึกหัดรายนี้ และขอให้นิสติ นักศึกษาแพทย์ รวมถึงผู้จบแพทยศาสตรบัณฑิตจากต่างประเทศ ให้ระมัดระวังการใช้สื่อโซเชียลเพื่อป้องกันไม่ให้เสื่อมเสียเกียรติต่อตนเองและวิชาชีพ
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวทางคณะกรรมการแพทยสภาจะหารือกันว่าจะดำเนินการด้านจริยธรรมอย่างไร อาจนำไปถึงการพิจารณาประกอบคุณสมบัติของการสมัครสอบเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในอนาคตด้วย
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: khaosod, @ittaporn@CATDUMBtv
ติดตาม CatDumb ได้ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.CatDumb.com
Youtube: www.youtube.com/c/CatDumbTV-Youtube
Instagram: www.instagram.com/catdumbnews/