กำลังเป็นประเด็นที่ถูกนำมาพูดถึงในช่วงนี้หลังจากที่มีสื่อทำข่าวเกี่ยวกับ ‘น้องโวลต์’ นักเรียนหญิงอายุ 18 ปี จากจังหวัดกาฬสินธุ์ สอบติดคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
แต่เนื่องจากประสบปัญหาทางด้านการเงิน ทั้งครอบครัวมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเพียง 1,500 บาท จนนำไปสู่การนำเสนอข่าวความยากจนของน้องโวลต์
คลิปการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับน้องโวลต์ผ่านสื่อต่างๆ
.
.
.
เรื่องราวที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อ
หลังจากที่มีชาวเน็ตได้ร่วมกันแชร์เรื่องราวของ น้องโวลต์ น.ส.ณัฐวดี เหล่าบุบผา อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ จ.กาฬสินธุ์ เรียนเก่งจนสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2564 รุ่นที่ 16
ซึ่งจะเดินทางไปศึกษาต่อในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2564 นี้ แต่ครอบครัว ฐานะยากจน มีเงินเหลือติดในบัญชีแค่ 1,500 บาท ครอบครัวมีอาชีพปลูกผักสวนครัวขาย
ในการนี้จึงมีการเชิญชวนร่วมกันช่วยบริจาคสมทุบทุนการศึกษาให้น้องโวลต์ เพื่อที่จะได้ศึกษาต่อจนจบคณะแพทย์ศาสตร์
หลังจากนั้นก็มีหน่วยงานรัฐเข้ามาเยี่ยมที่บ้านเพื่อตรวจสอบความเป็นอยู่ของน้องโวลต์ พบว่าเป็นบ้านลักษณะเพิงหมาแหงนมุงสังกะสีอยู่กลางสวนท้ายหมู่บ้าน เมื่อทราบข้อมูลจากน้องโวลต์ พ่อ และครูที่ปรึกษาแล้วว่า ไม่มีทุนส่วนตัวในการส่งเรียนปีการศึกษาละ 80,000 บาท
จึงได้มีการเปิดบัญชีขึ้นมาเพื่อรองรับการบริจาคสนับสนุนทุนการศึกษาจนกระทั่งได้ยอดมาประมาณ 2,700,000 บาท หลังจากนั้นได้ปิดรับบริจาคเนื่องจากเพียงพอสำหรับเป็นทุนการศึกษาแล้ว ส่วนการเบิกจ่ายเงินนั้นจะให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมปรึกษากันในการจ่ายเงิน
น้องโวลต์ระบุว่าเบื้องต้นได้ขอกู้เงิน กยศ. มาแล้วแต่คาดคงไม่พอ อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้ปกครองจึงปรึกษากันเพื่อเปิดบัญชีขอรับบริจาคสนับสนุนทุนการศึกษา คิดว่าไม่น่าได้มากเท่าไหร่แต่ปรากฎว่าสังคมโอนเงินเข้ามาในบัญชีเป็นจำนวนมากเกินความคาดหมาย จึงขอยุติรับการโอนและขอบคุณทุกคนที่โอนเข้ามา
ส่วน นายธนวุฒิ เหล่าบุบผา พ่อของน้องโวลต์ ระบุว่า เพิ่งทราบว่าลูกอยากเรียนแพทย์อย่างจริงจังตอน ม.4 เห็นตำราหนังสือเกี่ยวกับแพทย์มาอ่านหลายเล่ม พยายามสู้เพื่อหาทุนการศึกษาให้ลูก
แต่ก็หนักใจเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าจะหาได้ พอครูที่ปรึกษามาพูดคุยกับเกี่ยวกับทุนการศึกษาและส่งต่อน้องโวลต์ไปเรียนแพทย์ จึงอยากขอบคุณทุกท่านที่มีจิตศรัทธาให้ความช่วยเหลือ
บนโลกโซเชียลกับการขุดคุ้ย #จนทิพย์
เมื่อทราบข่าวกันแล้วว่ามีการเปิดรับบริจาคช่วยเหลือทุนการศึกษาให้กับน้องโวลต์ได้ไป 2.7 ล้านบาทนั้น ทว่าบนโลกโซเชียลเริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ‘ความจน’ ที่ถูกนำมาใช้เป็นการเปิดรับบริจาคขอทุนการศึกษาไปเรียนต่อแพทย์ด้วย #จนทิพย์
การตั้งข้อสงสัยจากชาวเน็ต
โดยจากข้อมูลที่นำเสนอผ่านสื่อไปเกี่ยวกับเงินจำนวน 1,500 บาทที่เหลือทั้งครอบครัว ยากจนไม่มีทุนเรียนต่อแพทย์ ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยในข้าวของเครื่องใช้ที่ครอบครองอยู่
ไม่ว่าจะเป็น iPad Pro พฤติกรรมรับเป็นเจ้ามือหวยในกลุ่ม มีพี่สาวขับรถป้ายแดงหลักล้าน รวมไปถึงเห็นขวดน้ำหอม Dior บนโต๊ะอ่านหนังสือ
iPad Pro ที่ออกข่าว
ขวดน้ำหอม Dior
เป็นเจ้ามือรับแทงหวยลาวและไทย
.
ข้อมูลจากทางญาติชี้แจงแต่ละข้อ
ภายใต้โพสต์ของโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ เกี่ยวกับเรื่องของอธิการบดี คณบดีและบุคลากรจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้ารับทราบข้อมูลในการพิจารณาจัดสรรทุนการศึกษานั้น
มีการชี้แจงในประเด็นที่โซเชียลกำลังสงสัยว่าจนจริงหรือไม่ โดยระบุถึงเรื่องรถยนต์ป้ายแดงนั้นเป็นของน้องสาว (ลูกสะใภ้) ซื้อให้เอาไปขับ ไม่เกี่ยวกับน้องโวลต์
ส่วนเรื่องของข้าวของเครื่องใช้ ไม่ว่าจะถูกหรือแพงเป็นเพราะความอดทนในการเก็บออมของน้อง ไม่ได้ไปเบียดเบียนพ่อแม่ โดยส่วนตัวคิดว่าน้องรู้ฐานะทางบ้านของตัวเอง ไม่มีการใช้จ่ายเกินตัว
แล้วทำไมถึงเปิดรับบริจาคทั้งที่ขอทุนได้? เป็นเพราะว่าต้องใช้ทุนเยอะ มีเกณฑ์แยกอีกต่างหาก
.
นอกจากนี้ยังมีภาพแชทจากคนใกล้ชิดน้องโวลต์ เปิดเผยว่ามีคนอยู่เบื้องหลังให้นักข่าวไปทำข่าว iPad เก็บเงินซื้อเองจริง น้ำหอมซื้อมือสองมาใช้ และเงินในบัญชี 1,500 บาทนั้นก็อยู่ในบัญชีพ่อ
ในส่วนประเด็นที่มีการพาดพิงสถานที่สอนพิเศษ ไม่มีการหลอกเอาเงินเด็ก ไม่มีการโกงเงินเด็ก
นอกจากนั้นยังมีการพูดถึงประเด็นนี้ในกล่มน้องใหม่ มมส 63 เนื่องจากสงสัยว่าจนไม่จริง
ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวเริ่มมีการเคลือบแคลงสงสัยออกไปในวงกว้าง เกี่ยวกับการการเปิดรับบริจาคโอนเงินเข้าบัญชีให้ความช่วยเหลือนักเรียนที่สอบติดแพทย์ ในเมื่อลักษณะความเป็นอยู่นั้นแทบไม่ได้เข้าข่ายยากจน แต่กลับได้รับเงินบริจาคหลักล้านในเวลาอันรวดเร็ว
ในขณะที่เหล่านักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหาสารคามเอง ต่างก็ตั้งคำถามกับมหาวิทยาลัย ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากจนเกินไป ละเลยนักศึกษาคณะอื่นๆ หรือนักศึกษาที่ยากจนจริงๆ ต้องหาทางกู้ กยศ. กันเองอีกมากมาย
และสำหรับประเด็นนี้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าจนทิพย์หรือจนจริง ต้องคอยติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด สามารถไปตามอ่านในทวิตเตอร์ #จนทิพย์ กันได้เลย
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์