สรุปประเด็น สาวเล่นเว็บพนัน ได้เงิน 2 ล้าน โดน “ตำรวจ” อุ้ม-ไถเงิน 400,000 อิหยังหนิ?

อีกหนึ่งประเด็นร้อนที่กำลังได้รับความสนใจ สำหรับกรณีที่สองสามีภรรยาได้เงินจากการเล่นพนันออนไลน์กว่า 2 ล้านบาท แล้วจู่ๆ ก็มีแก๊งอ้างว่าเป็นตำรวจไซเบอร์อุ้มไปเรียกเงิน 400,000 บาท และพระหนึ่งองค์

ล่าสุดก็มีการยืนยันแล้วว่าแก๊งที่อุ้มเธอไปนั้นคือตำรวจจริงๆ แถมยังเกิดเหตุชุลมุนในระหว่างควบคุมตัวไปฝากขังด้วย ซึ่งเรื่องราววุ่นๆ นี้เป็นมายังไง เดี๋ยว #เหมียวตะปู จะมาสรุปให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันนะฮะ

– เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา หลังจากที่สองสามีภรรยาเล่นพนันออนไลน์จนได้เงินมารวมกว่า 2 ล้านบาท แล้วจู่ๆ ก็มีชายฉกรรจ์นับสิบแจ้งว่าเป็นตำรวจไซเบอร์

– หญิงนักพนันเล่าว่า ชายฉกรรจ์เหล่านั้นได้พยายามตรวจค้น ก่อนจะอุ้มตัวเธอกับสามีและลูกชายวัย 11 ขวบไป แล้วขู่เรียกเงินเป็นจำนวน 400,000 บาท กับพระหลวงพ่อพัฒน์ทองคำ 1 องค์ มูลค่า 250,000 บาท

– ในภายหลังเธอยังบอกด้วยว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในเชียงใหม่อายัดบัญชี โดยให้เหตุผลว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ทว่าเว็บที่โดนโยงไปนั้นกลับเป็นเว็บอื่นที่เธอไม่รู้จัก ราวกับว่าต้องการที่จะปกป้องเว็บที่เธอเกี่ยวข้องด้วยจริงๆ

– ต่อมา หญิงนักพนันได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปแจ้งความที่ สน.บางนา เมื่อวันที่ 25 มีนาคม และยังได้นำเรื่องไปปรึกษากับ ‘ทนายตั้ม’ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง

– หลังจากที่เรื่องนี้เริ่มได้รับความสนใจจากผู้คน ก็ได้มีการรายงานจาก สน.บางนา ออกมาแล้วว่า ในกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 15 คนที่ก่อเหตุนั้นมีตำรวจรวมอยู่ด้วยจริงๆ 4 นาย สังกัดตำรวจไซเบอร์ 2 นาย และสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 อีก 2 นาย

– เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิด และได้เข้าค้นบ้านหลังหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นที่พักอาศัยของผู้ก่อเหตุ จนได้พบกับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีดำ ที่ใช้ในการก่อเหตุ

– จนกระทั่งวันนี้ 2 เมษายน ‘พ.ต.ต.คม’ หรือ ‘สารวัตรคม’ หนึ่งในผู้ต้องหา ก็ได้เดินทางมามอบตัวที่ สน.บางนา ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด และถูกสอบปากคำ (โดยรายละเอียดการสอบปากคำนี้ยังอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้)

– เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหาต่อ สารวัตรคม ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวให้เสื่อมเสียอิสรภาพ และกรรโชกทรัพย์ ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลพระโขนง

– ทว่าในระหว่างการนำตัวไปฝากขังนั้น สารวัตรคม ก็ได้พยายามขัดขืน และควักมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา โดยอ้างว่าตนแค่มารับทราบข้อกล่าวหา ถ้าจะนำไปฝากขังก็ขอเดินทางไปเอง

– การขัดขืนนำไปสู่เหตุชุลมุนจนทำให้ตำรวจ สน.บางนา ต้องดันตัวสารวัตรคมกลับเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวนเพื่อเจรจาอีกครั้ง

– ต่อมาตำรวจ สน.บางนา ก็ได้เข้าไปในห้องเพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความวุ่นวาย จนกระทั่ง สารวัตรคม เดินออกมาจากห้อง โดยไม่ได้ถูกควบคุมตัว

– สารวัตรคม ได้หันไปพูดกับสื่อมวลชนว่า ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 39 เนื่องจากตำรวจบางนาทำให้ตนเสียเสรีภาพ และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาเพราะมองว่าที่ตนทำไปนั้นคือการปฏิบัติหน้าที่

– ทั้งนี้ สารวัตรคม ยังคงมีท่าทีที่จะเดินทางไปศาลด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องทำการคุมตัว สารวัตรคม ด้วยมือเปล่า แต่ สารวัตรคม ก็ยังพยายามขัดขืนเหวี่ยงตัวไปมา ผลักเจ้าหน้าที่สืบสวน โดยที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนั้นก็ไม่ได้ตอบโต้กลับไป

– ขัดขืนหนักถึงขั้นพยายามจะดีดตัวลอยขึ้นเหนือหัวฝ่ายสืบสวน แต่สุดท้ายตำรวจก็สามารถคุมตัว สารวัตรคม ขึ้นรถตู้ไปได้สำเร็จอย่างทุลักทุเล

– พ.ต.อ.มนต์เสก ผู้กำกับ สน.บางนา กล่าวว่า เหตุขัดขืนดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจับกุมตัว สารวัตรคม และคัดค้านการประกันตัว โดยหลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของการสืบสวนข้อเท็จจริงและตามตัวผู้ก่อเหตุคนอื่นๆ มาให้ปากคำต่อไป

– โดยตอนนี้ได้มีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุเพิ่มอีก 5 รายแล้ว