ช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ หลายคนน่าจะผ่านตาเรื่องที่สถานทูตสวีเดน สร้างโพสต์ตอบรับกระแสการอยากย้ายประเทศ (ซึ่งเป็นกลุ่มเฟซบุ๊กที่มาแรงที่สุดในไทย)
ด้วยการที่สถานทูตสวีเดน ทำโพสต์บอกว่าทำไมสวีเดน จึงเป็นประเทศที่น่าไปอยู่ พร้อมชูข้อดีต่างๆ ทั้งสิทธิและการคุ้มครองแรงงาน ความเท่าเทียมกัน หรือระบบสวัสดิการที่ครอบคลุม
อ่านข่าวได้ที่: สถานทูตสวีเดนอย่างปั่น โพสต์ชวนคน “ย้ายประเทศ” ไม่วายมีดราม่าเบาๆ ในเมนต์
เนื่องจากโพสต์ดังกล่าว กลายเป็นกระแสไวรัล มีคนกดไลก์กว่า 60,000 ครั้ง แชร์อีกกว่า 43,000 ครั้ง จึงไม่แปลกใจเลยทีจะมีคอมเมนต์หลั่งไหลมามากมาย
และแน่นอนว่า ย่อมมีดราม่าย่อยๆ อยู่ในคอมเมนต์ด้วยเช่นกัน
บางส่วนก็บอกว่า ประเทศสวีเดนหนาวเกินไป ไม่น่าย้ายไปอยู่ บางส่วนก็วิจารณ์นโยบายรับมือโควิด-19 ของสวีเดน ที่ไม่มีการล็อกดาวน์จนมีผู้ติดเชื้อสูง ไปจนถึงเรื่องกฎหมายคุ้มครองราชวงศ์ของสวีเดนอีกด้วย
แต่ใครจะไปคาดคิดว่า เพจสถานทูตอย่างเป็นทางการ Embassy of Sweden in Bangkok จะมีการตอบกลับคอมเมนต์ต่าง ด้วยเช่นกัน หลังจากที่มีการโพสต์ภาพคอมเมนต์ที่บิดเบือนเนื้อหาบางส่วนของข้อกฎหมาย
โดยมีคอมเมนต์หนึ่งมาโพสต์ภาพที่มีข้อความว่า
“รธน. บทที่ 5 มาตรา 8 กำหนดไว้ว่า พระมหากกษัตริย์หรือพระราชินีทรงเป็นประมุขของประเทศ เป็นที่เคารพสักการะและจะกล่าวหาฟ้องร้องมิได้ รวมทั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์”
ทางฝั่งเพจสถานทูต รีบมาชี้แจงโดยทันทีว่ากฎหมายที่มีคำว่า “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” นั้น โดนยกเลิกเพิกถอนไปมากกว่า 70 ปีมาแล้ว และถึงแม้จะมีการฟ้องร้อง ศาลก็ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดอีก
“สวีเดนยกเลิกเพิกถอน คำว่า “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ตั้งแต่ พ.ศ. 2491 เป็นต้นมา แต่ยังคงบทบัญญัติที่จะคุ้มครองไม่ให้มีการ “ล้มล้างรัฐ”
อย่างไรก็ตาม บทบัญญัติดังกล่าวเคยถูกนำมาปรับใช้ใน 2-3 คดีเท่านั้นในทศวรรษที่ผ่านมาและศาลสั่งยกฟ้องจำเลยทั้งหมดอีกด้วย”
ภายหลังมีชาวเน็ตมาช่วยเสริมในโลกออนไลน์ว่า รธน. มาตรา 8 ตรงนั้น ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องเคารพสักการะแต่อย่างใด เพียงแต่เขียนว่าเป็นประมุขของประเทศ จะฟ้องร้องมิได้เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีคอมเมนต์ซึ่งวิจารณ์นโยบายรับผู้อพยพของสวีเดน โดยเหน็บแนมว่าจะเป็นการรับคนไปเพื่อให้มาทำงานจ่ายภาษี เพราะสวีเดนขาดแคลนแรงงาน และยังมีการเก็บภาษีในระดับสูงอีกด้วย
ซึ่งในจุดนี้ ทางสถานทูตก็ออกมาอธิบายเรื่องภาษี โดยเน้นไปถึงระบบสวัสดิการภายในประเทศ ซึ่งเป็นเหตุที่ต้องมีการเก็บภาษีสูง ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้สิทธิประโยชน์คนในประเทศ และลดความเหลื่อมล้ำลง
“สวีเดนใช้ระบบอัตราภาษีก้าวหน้า เป็นที่ทราบกันดีว่า ระบบภาษีของสวีเดนใช้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนในวัยทำงาน
ที่สำคัญมากไปกว่านั้น คือ เงินภาษีใช้ไปในการสนับสนุนบริการด้านสวัสดิการและระบบประกันสังคมที่ครอบคลุมดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต เด็กและเยาวชนได้รับประโยชน์จากการดูแลเด็กและการศึกษา
พ่อแม่ในสวีเดนเองก็มีสิทธิลางานถึง 480 วันเพื่อเลี้ยงดูบุตรแรกคลอดหรือบุตรที่เพิ่งรับอุปการะ โดยยังคงได้รับเงินค่าจ้าง
ส่วนคนชราก็ได้รับบริการดูแลสุขภาพในระยะยาวรวมถึงเงินบำนาญด้วย”
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นของดราม่าเล็ก ภายใต้โพสต์ที่พูดถึงข้อดีของการไปอยู่สวีเดน จากทางสถานทูตเท่านั้น
ใครที่มีเวลาว่าง อยากจะเสพคอมเมนต์ดราม่าต่าง เพิ่มเติม ก็สามารถกดเบาๆ ในโพสต์ด้านล่างนี้ เพื่ออ่านคอมเมนต์ทั้งหมดรวมกว่า 10,000 คอมเมนต์กันต่อได้เลย..