ในปมความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่บานปลาย มีการยกระดับการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ฉนวนกาซาโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดโดยอิสราเอล และมีการยิงจรวดขีปนาวุธเข้ามาในพื้นที่ของอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาส
จนกระทั่งในวันนี้มีการประกาศหยุดยิงจากทั้งสองฝั่งแล้ว จากการตอบโต้กันไปมาเป็นจำนวน 11 วันเต็ม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีชีวิตของพลเรือนแรงงานชาวไทยที่อยู่พื้นที่ของอิสราเอลอีกหลายชีวิต และจากเหตุการปะทะกันจากทั้งสองฝั่ง ทำให้มีแรงงานชาวไทยได้รับลูกหลงเสียชีวิต 2 รายด้วยกัน
วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 รายการเรื่องเล่าหน้าหนึ่ง เปิดเผยคลิปเหตุการณ์ของนายสิขรินทร์ สงำรัมย์ 1 ในแรงงานไทย 2 คนที่เสียชีวิต นางสาวอรทัย กองมะเริง ผู้เป็นภรรยาเปิดเผยว่าขณะที่สามีตนโดนลูกหลง เป็นจังหวะที่กำลังวิดีโอคอลหากันพอดี
เมื่อได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้นดังสนั่น ก่อนจะพากันหลบเข้าบังเกอร์ มีเสียงคนพูดแทรกเข้ามาว่าสามีโดนระเบิดและสัญญาณก็ถูกตัดขาดไป และทราบภายหลังว่าสามีเสียชีวิต จนถึงตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้
เว็บไซต์ไทยพีบีเอสและผู้จัดการระบุว่า ทางครอบครัวของนายสิขรินทร์ ต่างรู้สึกช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากเพิ่งไปทำงานต่างประเทศเป็นครั้งแรก และเพิ่งเริ่มงานได้เพียง 3 วันหลังกักตัวได้ 14 วัน กลับเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ย้อนกลับไปเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 สามีได้วิดีโอคอลมาหาถามไถ่กันตามปกติ แต่แล้วก็เกิดเหตุระเบิดดังขึ้นมาจนถามสามีว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้ยินเสียงตอบแต่เห็นภาพที่สามีถือโทรศัพท์วิ่งหนี
จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเหมือนล้มลงแล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ เธอพยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นยังไงบ้าง แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา จนทราบว่ามีคนไปช่วยและตอบว่าสามีโดนระเบิดและกำลังจะพาไปส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในภายหลัง
ทางด้านสำนักงานแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่าให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน มาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานผู้เสียชีวิต ชี้แจงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ
เช่นเงินช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ค่าจัดงานศพ 40,000 บาท ค่าทำศพจากประกันสังคม 50,000 บาท พร้อมเงินสะสมอีกจำนวนหนึ่ง และเงินจากกองทุนผู้ประสบภัยสงครามจากอิสราเอลจะทำการประสานให้
ส่วนเรื่องที่ทางครอบครัวต้องการให้รัฐช่วยนำศพกลับมาสู่ภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ทางหน่วยงานจะติดต่อประสานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้นเว็บไซต์มติชนและไอเอ็นเอ็น รายงานเกี่ยวกับ นางสาวเรือนรัตน์ แซ่ลี ภรรยาของนายวีรวัฒน์ การุญบริรักษ์ อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ แรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตอีกหนึ่งราย กล่าวว่าตนยังรู้สึกเสียใจมากทำใจไม่ได้จนไม่ได้นอนทั้งคืน จนมีสภาพร่างกายอ่อนเพลีย
ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นจะเร่งการติดตามนำร่างกลับมาสู่ภูมิลำเนา ส่วนสิทธิประโยชน์ด้านการจัดงานศพจะได้รับจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เป็นเงินจำนวน 40,000 บาท
สำหรับแรงงานไทยในอิสราเอลที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะได้รับค่าเงินทดแทนจากสำนักงานประกันสังคมแห่งชาติของอิสราเอล
โดยในกรณีเสียชีวิต ภรรยาจะได้รับเงินประมาณ 36,000 บาท ส่วนบุตรประมาณ 6,000 – 12,000 บาททุกเดือน จนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ หรือบุตรมีอายุครบ 18 ปี