จากกรณีที่ชาวเน็ตแชร์ภาพ ‘ตำรวจเอาปืนจ่อหัวผู้ชุมนุม’ จากเพจ Voice TV ไปทั่วโซเชียล ช่วงเมื่อวาน (1 สิงหาคม 2564) มาจนถึงวันนี้
(ภาพดังกล่าว : https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/photos/10162018947389848 )
ล่าสุดวันนี้ (2 สิงหาคม) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บชน. ระบุว่าภาพที่เป็นข่าว เจ้าหน้าที่ไม่ได้ยิง แค่ตักเตือน ไม่ได้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ
“อาวุธปืนที่ใช้กองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการติดสติกเกอร์เป็นสัญลักษณ์ให้เห็นชัดเจนว่ากระสุนที่ใช้เป็นกระสุนยาง อีกครั้งเหตุการณ์ในภาพดังกล่าวไม่ได้มีการยิงผู้ชุมนุมที่ปรากฏในภาพ แต่ได้ทำการตักเตือนและไล่ให้ออกนอกพื้นที่
“ทั้งนี้มองว่าลักษณะที่เกิดขึ้นในภาพไม่ได้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะสถานการณ์ในขณะนั้นค่อนข้างเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ เนื่องจากก่อนหน้านั้นมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ชุมนุม” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
พร้อมทั้งยืนยันว่ากรณีดังกล่าว เป็นรูปแบบทางยุทธวิธีที่เรียกว่า Cover and Contact ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ต่างประเทศใช้ เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงการตักเตือนผู้ชุมนุมให้กลับเคหสถาน ซึ่งลักษณะก็ต้องปฏิบัติไปตามยุทธวิธี
ระหว่างที่มีเจ้าหน้าที่ไปเจรจา พูดคุยก็ต้องมีอีกคนคอยคุมกันอยู่แล้ว เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมกระจายตัวออกจากพื้นที่ และเจ้าหน้าที่เห็นว่าผู้ชุมนุมบางคนอาจเป็นภัยคุกคามหรืออาจเกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ได้
พล.ต.ต.ปิยะ ระบุเพิ่มว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ 13 นาย ส่วนใหญ่เกิดจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมกว้างขาสิ่งของใส่ รวมถึงการปะทะระหว่างการผลักดันผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่
ยืนยันว่า จากภาพคลิปวิดีโอและภาพนิ่งตำรวจมีหลักฐานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการยั่วยุทำลายทรัพย์สินของราชการและลุกลามเข้ามาในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ก่อน จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอน
“จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่ารูปแบบของกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวานนี้ เป็นการรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่ม หรือที่เรียกว่าแม่น้ำหลายสาย ประกอบด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมจากจังหวัดนนทบุรี นครปฐม กรุงเทพฯ เขตมีนบุรี และจุดอื่นๆ ทั่วกรุงเทพฯ ที่จะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่การชุมนุมที่นัดหมายไว้
ทั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมถือว่ามีความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและจะติดตามดำเนินคดีออกหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลังซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง”
พล.ต.ต.ปิยะเตือนผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้ประเทศบอบช้ำมากพอแล้วอย่าได้ซ้ำเติมอีกเลย อย่างกรณีเมื่อวานที่ผู้ชุมนุมมีการปิดถนนวิภาวดี ซึ่งบนถนนเส้นดังกล่าวมีโรงพยาบาลหลายแห่งทำให้รถพยาพาล และรถของบุคลากรทางการแพทย์ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้สะดวก
จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาในการเคลียร์พื้นที่ ส่วนการดำเนินคดีสำหรับผู้ชุมนุมที่เดินทางมาร่วมชุมนุมและถูกดำเนินคดีในหลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ ศาลสามารถที่จะเพิ่มโทษได้ในแต่ละครั้งแต่ละฐานความผิด ด้วยเช่นกัน
ภาพ : กรุงเทพธุรกิจ
ที่มา :