ย้อนกลับไปเล็กน้อยในช่วงปี 2020 ที่ประเทศออสเตรเลียมีรายงานการรักษาผู้ป่วยอาการไบโพลาร์ ด้วยวิธีการ “ปลูกถ่ายอุจจาระ” เป็นครั้งแรก และถูกรายงานว่าช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นได้จริงๆ สร้างความแปลกใจให้กับผู้ทราบข่าวเป็นอย่างมาก
แต่มันเป็นไปได้จริงๆ ไหม ที่การ “ปลูกถ่ายอุจจาระ” จะมีส่วนช่วยรักษาอาการไบโพลาร์ได้จริงๆ และเพราะอะไรกันการรักษาที่ดูจะไม่เกี่ยวกับสมองเลยนี้ ถึงมีส่วนช่วยแก้ไขอาการทางจิตได้ ล่าสุดนี้ดูเหมือนจะมีนักวิทยาศาสตร์ออกมาให้คำตอบแล้ว
[ประวัติการรักษาไบโพลาร์ด้วย “การปลูกถ่ายอุจจาระ”]
การปลูกถ่ายอุจจาระเพื่อรักษาอาการไบโพลาร์เมื่อปี 2020 นั้น เกิดขึ้นกับหญิงชาวออสเตรเลียผู้เคยผ่านการเข้าโรงพยาบาล และใช้ยารักษาอาการมาเป็นเวลานาน จนน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ
แต่หลังจากเธอได้รับการปลูกถ่ายอุจจาระจากสามี เธอก็มีอาการดีขึ้นตลอดช่วงหลายปีต่อมา น้ำหนักลดลงร่วมถึง 33 กิโลกรัม จนถึงจุดที่ไม่ต้องทานยาอีกต่อไปและอาชีพการงานกลับเป็นปกติ
และนี่ก็ไม่ใช่การรักษาเพียงครั้งเดียวที่จะบุว่า การปลูกถ่ายอุจจาระมีส่วนช่วยต่ออาการทางจิตแต่อย่างไรด้วย
นั่นเพราะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ก็เพิ่งจะรายงานความสำเร็จในการปลูกถ่ายอุจจาระเพื่อรักษาเด็กวัยรุ่นที่เป็นไบโพลาร์เช่นกัน
[การรักษาแบบนี้เป็นไปได้อย่างไร?]
มีแบคทีเรียนับล้านล้านอาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา ซึ่งไมโครไบโอมในลำไส้เหล่านี้ มีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพโดยทั่วไปของเรา ซึ่งรวมถึงสุขภาพของสมองด้วย
โดยที่ผ่านมาความผิดปกติของไมโครไบโอมในลำไส้ก็เคยถูกพิสูจน์แล้วว่ามีความเชื่อมโยงกับไบโพลาร์ โรคซึมเศร้า และโรคจิตเภทจริงๆ จากการที่เมื่อเราเอาอุจจาระของมนุษย์ที่เป็นโรคซึมเศร้าไปปลูกถ่ายใส่หนู พวกมันจะพัฒนาภาวะซึมเศร้าขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้นแนวคิดเบื้องหลังการปลูกถ่ายอุจจาระจึงไม่ใช่แค่การเอาอุจจาระจากคนคนหนึ่งไปใส่อีกคนเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนไมโครไบโอมในลำไส้ของผู้ป่วย ด้วยแบคทีเรียที่ดีกว่าของคนสุขภาพดีนั่นเอง
[การปลูกถ่ายอุจจาระจะเป็นอย่างไรต่อไป]
น่าเสียด้วยที่แม้การทดลองรักษาอาการทางจิตด้วยการปลูกถ่ายอุจจาระที่ผ่านมาจะจบลงด้วยดีทั้งสิ้น แต่การทดลองเช่นนี้ก็ยังถือว่ายัง “มีอยู่น้อย” ในปัจจุบัน
เราจึงยังต้องการการศึกษาที่ใหญ่กว่าและได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อแสดงให้เห็นว่าการปลูกถ่ายอุจจาระมีผลจริงอยู่ และในปัจจุบันนี่ก็เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ในหลายประเทศกำลังจัดทำอยู่เลยด้วย
และแม้นี่จะเป็นการรักษาที่ดูมีความเป็นไปได้สูงก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ก็ยังแนะนำไว้ด้วยว่านี่เป็นการรักษาที่ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ทำเองที่บ้านอย่างที่หลายคนอาจคิดแต่อย่างไร
ที่มา
pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/35165993/
journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/0004867420912834
www.science.org/doi/10.1126/sciadv.aau8317
theconversation.com/a-poo-dose-a-day-may-keep-bipolar-away-when-it-comes-to-mental-health-what-else-could-poo-do-177748
www.iflscience.com/health-and-medicine/a-poo-dose-a-day-may-keep-bipolar-away-when-it-comes-to-mental-health-what-else-could-poo-do/