การเรียกร้องเพื่อสิทธิต่างๆ นั้นมีมาอย่างยาวนานแล้ว และยังคงมีการดำเนินกิจกรรมเรียกร้องต่างๆ กันอย่างต่อเนื่อง ในหลากหลายประเด็นเพื่อให้มีความเท่าเทียมในสังคมเกิดขึ้น
ส่วนใหญ่แล้วที่ออกข่าวมักจะเป็นการเรียกร้องสิทธิเพื่อผู้หญิง แต่ในอีกมุมของผู้ชายเองก็มีการเรียกร้องเพื่อสิทธิของผู้ชายเหมือนกัน
กรณีนี้เกิดเป็นความเดือดดาลของนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิผู้ชาย เมื่อได้เห็นเหล่าคนดังถ่ายรูปออกสื่อพร้อมท่าทางมือที่แสดงออกมา กลับมองว่า ‘ไม่เหมาะสม’ และท่าทางมือนั้นหมายถึงการใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บีบเข้าหากัน
มันเกิดเป็นเรื่องมาตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2021 หลังจากที่ อี อึน-แจ ยืนกินช็อคโกแลตในงาน Baeksang Arts Awards พร้อมกับให้สื่อถ่ายภาพ
ทีนี้เหล่านักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิผู้ชายก็โกรธจัดเลย เพราะด้วยท่าทางมือที่ใช้จับช็อคโกแลตของเธอนั้น มีความคล้ายคลึงกับท่าบีบนิ้วเข้าหากัน
ท่ามือแบบนี้เป็นท่าที่คนนำไปใช้ล้อเลียนเกี่ยวกับขนาดของอวัยวะเพศชาย ซึ่งทางนักสิทธิเพื่อผู้ชายมองว่ามันเป็นสัญลักษณ์เชิงต่อต้านผู้ชายด้วย อีกทั้งยังถูกเชื่อมโยงไปยังกลุ่ม Megalia (메갈리아) เป็นกลุ่มสตรีนิยมที่มีโลโก้เป็นลักษณะท่าบีบมือดังกล่าว ถูกนำมาใช้ประกอบ
จากเหตุการณ์นี้ มีการเปิดลงชื่อเพื่อแบน อี อึน-แจ จากงานสื่อโทรทัศน์ มีคนร่วมลงชื่อเป็นหลัก 8 หมื่นคน อย่างไรก็ตามบนโลกออนไลน์เองต่างก็เห็นต่างแย้งกันไปมา ว่าที่การมองการเคลื่อนไหวสตรีนิยมเป็นการสร้างความเกลียดชังต่อผู้ชายนั้นคือความเข้าใจผิด
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องนี้ถูกหยิบมาเป็นประเด็นใหญ่โตในเกาหลีใต้ หลากหลายบริษัทในเกาหลีใต้เริ่มถอดโฆษณาที่มีท่าทางลักษณะมือบีบนี้ออก และกล่าวขอโทษที่ปล่อยโฆษณาแบบนั้นออกไป
ตัวอย่างเช่นโฆษณาของร้านสะดวกซื้อ GS25 ที่มีท่ามือบีบจับไส้กรอกเวียนนาประกอบอยู่ในนั้น มันก็ถูกถอดออกไปจากแคมเปญโฆษณา
.
รายงานจาก Korea Times ระบุเพิ่มเติมว่า ร้านไก่ทอด 2 เจ้าก็ตกเป็นเป้าโจมตีเรื่องนี้เหมือนกัน ชาวเน็ตต่างตั้งคำถามว่าทำไมถึงเลือกใช้ลักษณะมือบีบแบบนั้น เหมือนกับแบบโลโก้ของกลุ่มสตรีนิยม Megalia นำมาใช้
บ้างก็ว่าการแสดงโฆษณาในลักษณะแบบนี้ ไม่ใช้ท่าทางการหยิบจับน่องไก่แบบที่คนทั่วไปทำกัน บ้างก็ว่าคนที่เดือดกับเรื่องนี้เป็นพวกอ่อนไหวมากเกินไป การใช้มือเพื่อหยิบไก่มาทานแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่ในท้ายที่สุดแล้วภาพโฆษณาตัวนี้ก็ถูกถอดออกไปจากโซเชียลมีเดีย ร้านไก่ทอดทั้ง 2 เจ้าต่างก็ออกมาขอโทษกับกรณีที่เกิดขึ้นตามมา
ที่มา: koreaboo, koreaherald, koreatimes