กลายเป็นอีกเรื่องราวระหว่างประเทศที่ถือว่าเป็นที่น่าจับตามองไม่น้อยไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่า
บริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสอย่าง “Électricité de France” (EDF) ได้มีการเตือนเข้ามายังสหรัฐฯ ว่าโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศจีนอาจกำลังเสี่ยงที่จะเป็น “ภัยคุกคามทางรังสีแบบกระชั้นชิด” ก็เป็นได้
การออกมากล่าวเตือนในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ EDF ซึ่งถือหุ้น 30% ของ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไถซานทางตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง ได้พบว่า
ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ กำลังมีการเพิ่มขึ้นของก๊าซเฉื่อยบางตัวในเตาเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 (คาดกันว่าเป็นก๊าซที่ใช้ในระบบทำความเย็น) ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงที่อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของรังสีได้
อย่างไรก็ตามแทนที่จะทำอะไรสักอย่างกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทาง EDF ได้ระบุในรายงานว่า หน่วยงานด้านความปลอดภัยของรัฐบาลจีนกลับกำลังพยายาม เพิ่มเพดานข้อจำกัดปริมาณกัมมันตภาพรังสีที่จะสามารถถูกพบได้นอกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งดังกล่าวแทน
ทั้งๆ ที่ในช่วงเดือนเมษายนเครื่องปฏิกรณ์ที่ 2 ของโรงไฟฟ้านี้ก็เคยมีเรื่องจนต้องปิดปรับปรุง และระบายก๊าซบางส่วนออกมา โดยที่ไม่มีการระบุถึงเหตุผลมาแล้ว
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ จึงจำเป็นต้องง่วนอยู่กับการประเมินความเป็นไปได้ของรายงานฉบับนี้เลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามเราก็ดูจะยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนนัก
และแม้ว่า EDF จะถือหุ่นของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เจ้าปัญหานี้อยู่ก็ตาม แต่อ้างอิงจากรายงานของ CNN สุดท้ายแล้วผู้ที่จะตัดสินใจว่าควรจะปิด โรงไฟฟ้าดังกล่าวหรือไม่ก็ยังคงเป็นประเทศจีนเองอยู่ดี
ที่มา iflscience, cnn