มันเป็นเรื่องที่หลายๆ คนอาจเคยได้ยิน ว่าการเป็นผู้หญิงในบางพื้นที่ของโลกนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไหร่นัก เพราะพวกเธอจะมักจะต้องพบกับความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศได้ โดยเฉพาะในรูปแบบที่มาจากวัฒนธรรมของพื้นที่นั้นๆ เอง
ซึ่งสำหรับประเทศในแถบแอฟริกาหลายๆ ที่แล้ว ประเพณีสุดโหดต่อผู้หญิงที่มีเหยื่อเยอะแต่กลับไม่ค่อยจะเป็นที่รู้จักนักก็คงจะไม่พ้น “การรีดหน้าอก” (Breast Ironing/Flattening) เป็นแน่
เพราะนี่คือประเพณีที่ผู้หญิงจะถูกนำตัวมาเอาหินร้อนๆ ทาบหน้าอกเลยนั่นเอง!!
ประเพณีการรีดหน้าอกนั้น เป็นวัฒนธรรมของประเทศในแถบแอฟริกาบางส่วน แต่พบเห็นได้ค่อนข้างมากในประเทศแคเมอรูน
โดยในประเทศเหล่านี้ เด็กหญิงที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยตั้งแต่ 9 ขวบขึ้นไปจะถูกนำตัวมา “รีดหน้าอก” ด้วยวิธีการที่คล้ายๆ กัน คือหลายๆ ที่จะมักใช้วิธีนำหินอังไฟให้ร้อน ก่อนที่จะนำไปทาบอกเพื่อ “ละลายไขมัน” แล้วเอาไม้ร้อนๆ มากดรีดให้แบนซ้ำ และผันผ้าทับไว้อีกที
พวกเขาทำเช่นนี้ด้วยเหตุผลที่หลากหลาย โดยสำหรับบางที่พวกเขาอาจจะรีดหน้าอก เพราะความเชื่อที่ว่าการมีหน้าอกใหญ่ๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดี หรือเป็นสัญลักษณ์ของความน่าอาย
ในขณะที่อีกหลายที่ก็ทำไป เพื่อให้เด็กผู้หญิงเป็นสาวช้าลง หรือทำให้พวกเธอดูไม่เหมือนผู้หญิง ภายใต้ความเชื่อที่ว่า มันจะช่วยป้องกันการท้องก่อนวัย หรือการถูกข่มขืนได้??
แน่นอนว่าวิธีการนี้ตามปกติแล้วจะไม่ได้หยุดการเติบโตของหน้าอกได้ในระดับอย่างที่หวังไว้เท่าไหร่นัก
กลับกันบ่อยครั้งผู้เข้ารับการรีดหน้าอกจึงต้องทนเจ็บปวดทรมานเป็นเวลาหลายๆ วันจากการเข้ารีดหน้าอกซ้ำๆ แถมยังเสี่ยงทั้งต่อการเกิดบาดแผล หน้าอกผิดรูปร่าง หรือแม้แต่การเกิดมะเร็งเต้านมในอนาคตอีก
นี่นับว่าเป็นอีกวัฒนธรรมที่แม้จะยังคงมีอยู่แม้ในปัจจุบัน แต่ก็น่ากลัวเอามากๆ เลยก็ว่าได้
เพราะอ้างอิงจากข้อมูลของสหประชาชาติเมื่อปี 2020 มีวัยรุ่น 3.8 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากวัฒนธรรมการรีดหน้าอก แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องราวของวัฒนธรรมนี้กลับไม่เป็นที่รู้จักกัน
ทั้งๆ ที่หากเอามาจัดอันดับนี่จะเป็นหนึ่งในห้าอาชญากรรมความรุนแรงทางเพศ ที่มีเหยื่อมากที่สุด แต่กลับไม่ถูกรายงาน นั่นเพราะสูงถึงราวๆ 55% ของเด็กที่ถูกรีดอก นั้นล้วนแต่จะถูกกระทำโดยครอบครัว (โดยเฉพาะมารดาแท้ๆ) ของพวกเธอเอง
และที่สำคัญดูเหมือนว่าแม้แต่ตัวเหยื่อที่ถูกรีดหน้าอกเองบ่อยครั้งก็ไม่ได้เข้าใจด้วยซ้ำว่าสิ่งที่พวกเธอต้องเผชิญนั้น มันเป็นสิ่งที่เข้าข่ายการทารุณทางเพศและไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย
ที่มา thetimes, shakeafrica และ aho