คุณคงจะเคยได้ยินความสามารถอันน่าทึ่งของเหล่ามดตัวเล็กตัวน้อยกันมาบ้างไม่มากก็น้อย อย่างแรกก็คือพวกมันสามารถแบกของหนักกว่าตัวมันเองได้หลายเท่า และขึ้นชื่อในเรื่องของความเป็นระเบียบและความสามัคคีอย่างมาก
และความสามัคคีของเหล่ามดนี่แหละ คือหัวใจที่หลักที่ทำให้พวกมันดูแข็งแกร่งและน่ากลัวในเวลาเดียวกันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
คงจะไม่มีใครคิดไปยุ่งกับตัวต่อแตนหรือรังของพวกมันหรอก หากไม่อยากเจ็บตัวก็ควรจะเรียกให้ใครที่เชี่ยวชาญมาจัดการเก็บกวาดพวกมันไป แต่สำหรับมดแล้วก็คงไม่ใช่ปัญหาที่พวกมันมองว่าเป็นเรื่องใหญ่
หนึ่งในคลิปอันน่าทึ่งจากนาย Francisco Boni ที่เผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์ระบุว่า เป็นการบุกโจมตีของเหล่ามดทหารมีเป้าหมายเป็นรังต่อที่อยู่ติดกับบริเวณผนังบ้านด้านบน
และเป็นระดับความชาญฉลาดของเหล่ามดที่สามารถคำนวนน้ำหนักโดยรวมในการสร้างสะพานเชื่อมไปยังรังต่อได้อย่างแม่นยำ
Attack of legionary ants (also known as army ants or marabunta) to a wasp honeycomb. Impressive the level of swarm intelligence and collective computation to form that bridge. pic.twitter.com/StvDkmv8x8
— Francisco Boni (@boni_bo) August 5, 2018
ทั้งนี้เขาได้วิเคราะห์เกี่ยวกับสะพานมดนี้ไว้ว่า เมื่อเกิดการโจมตีหรือบุกรุกรัง ต่อจะหนีออกจากรังไป ส่วนมดจะไม่ยอมออกจากรังจนกว่าจะปล้นของข้างในออกมาจนหมด ไม่ว่าจะเป็นทั้งดักแด้ ตัวอ่อน และไข่ รวมไปถึงตัวต่อบางตัวที่หนีไม่ทัน
ส่วนเรื่องการต่อตัวเป็นสะพานเชื่อมเพื่อข้ามแบบนี้เป็นเพราะว่าพวกมันเดินแบบกลับหัวได้ยาก และนอกจากจะเห็นแบบนี้แล้วพวกมันสามารถต่อตัวเป็นสะพานบนน้ำได้เช่นกัน และการต่อตัวสะพานโรยลงมาก่อนขึ้นไปข้างบนก็เพื่อบอกทิศทางว่าขึ้นหรือลงอยู่
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีชาวเน็ตในนาม @godie1998 กล่าวว่าสะพานมดมันอาจจะเริ่มจากทางตรงมาก่อนแล้วก็ได้ แต่ด้วยแรงดึงดูดของโลกทำให้สะพานตกลงมาแล้วค่อยก่อตัวใหม่ขึ้นไปข้างบน
ซึ่งเป็นเพียงการตั้งข้อสมมติฐาน พิจารณาตามสัดส่วนของเวลา สะพานมดสะท้อนให้เห็นแรงโน้มถ่วงของวัตถุได้อย่างสมบูรณ์ จากการที่มันเคยตกมาแล้ว 1 รอบ และยิ่งขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
อีกหนึ่งคลิปตัวอย่างการสร้างสะพานของมดทหาร
If you want to know more about the collective behavior of army ants making these impressive largely decentralized self-organized systems, check out this video with Simon Garnier (@sjmgarnier) from the New Jersey Institute of Technology (@NJIT) pic.twitter.com/3dukAIvcLf
— Francisco Boni (@boni_bo) August 6, 2018
ที่มา: @boni_bo