หากพูดถึงแคนาดา หลายคนอาจจะคิดถึงภาพประเทศที่มีหิมะขาวโพลน และอากาศหนาวเย็นตลอดแทบทั้งปี
แต่ซัมเมอร์ปีนี้ ดูเหมือนจะหนักหนาสาหัสสำหรับชาวแคนาดาเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งมีรายงานว่าอุณหภูมิร้อนจัดเป็นประวัติศาสตร์ วัดได้สูงถึง 46.6 องศาเซลเซียส
โดยปกติทั่วไปแล้ว ในช่วงซัมเมอร์ ประเทศแคนาดาจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส และอาจสูงถึง 25-30 องศาเซลเซียส ในพื้นที่ชายฝั่ง โดยเฉพาะทางตะวันตก
แต่คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยได้มากถึง 15 องศาเซลเซียส
ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขนาดนี้ ต้องย้อนกลับไปเกือบร้อยปี ในปี 1937 ซึ่งเคยวัดได้ที่ 45 องศาเซลเซียสในรัฐ Saskatchewan ตอนกลางของประเทศมาแล้ว
อากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพื่อให้กำลังไฟแก่เครื่องปรับอากาศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาไฟฟ้าขาดแคลน หรือไฟตกในบางพื้นที่ได้
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าพื้นที่บางส่วนทางตะวันตกของแคนาดา รวมถึงตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ มีการตั้ง Cooling Center หรืออาคารปรับอากาศขนาดใหญ่ เพื่อให้คนที่ประสบวิกฤติอากาศร้อนเข้ามาอาศัยชั่วคราวแล้ว
มีการคาดการณ์ว่า คลื่นความร้อนในพื้นที่ดังกล่าว อาจจะทุเลาลงในช่วงสัปดาห์นี้ แต่ผู้คนก็ยังจะต้องเผชิญกับอากาศ 40 องศาเซลเซียสต่อไปอีกสักระยะ
ในส่วนปัญหาของคลื่นความร้อน มีการถกเถียงกันในเรื่องของสาเหตุ ว่ามาจาก “ภาวะโลกร้อน” ที่มีมนุษย์เป็นสาเหตุหลักหรือไม่?
โดยมีนักวิทยาศาสตร์หลายกลุ่ม ให้หลักฐานที่เชื่อมโยงกับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากมนุษย์ โดยเฉพาะจากอุตสาหกรรม หรือการผลิตไฟฟ้าในประเทศกำลังพัฒนา ที่สร้างมลพิษเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน
ที่มา:
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-57634700
www.nytimes.com/2021/06/28/world/canada/canada-heat-wave-record.html