ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนทางหน่วยงานกรมสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์ประกาศว่าทางตอนใต้และตะวันตกกลางของสหรัฐฯ พบการแพร่ระบาดของโรคปริศนาในนกและทำให้พวกมันล้มตายเป็นจำนานมาก
ทั้งนี้หน่วยงานเริ่มได้รับรายงานเกี่ยวกับอาการป่วยและตายของนกในพื้นที่รัฐวอชิงตัน เวอร์จิเนีย แมรี่แลนด์ และเวสต์เวอร์จิเนียในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
โดยพวกมันมีอาการตาบวม หน้าบวม และไม่สามารถบินได้ เป็นอาการเกี่ยวข้องกับระบบประสาท ทั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้
ในรัฐเคนทักกี้ กรมทรัพยากรปลาและสัตว์ป่าขอให้ประชาชนช่วยกันรายงานเกี่ยวกับนกที่มีอาการป่วยและตายผ่านระบบออนไลน์ ส่วนใหญ่พบเป็นนกสายพันธุ์บลูเจย์ นกกราเคิล และนกกิ้งโครงพันธุ์ยุโรป อาจมีสายพันธุ์อื่นติดโรคได้เช่นกัน มีการส่งตัวอย่างไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่า 20 ชุด
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าโอไฮโอระบุว่า นกที่ติดโรคจะมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา และกำลังประสานกับหน่วยงานรัฐเพื่อช่วยกันหาสาเหตุที่ทำให้นกท้องถิ่นล้มป่วย
หน่วยงานอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่ารัฐอินดีแอนากล่าวว่า ได้ทำการตรวจสอบตัวอย่างนกเพื่อหาเชื้อไข้หวัดนกและเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ (เชื้อไข้สมองอักเสบ) ปรากฎว่าผลเป็นลบทั้งคู่
ตามการรายงานของหน่วยงานกรมสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา นกที่มารวมตัวกันตามที่ให้อาหารหรือสระน้ำสามารถแพร่กระจายโรคได้
ทั้งนี้ได้แนะนำให้คนหยุดให้อาหารนกจนกว่าอัตราการตายของนกเริ่มลดลง และขอให้ช่วยกันทำความสะอาดเครื่องให้อาหารและสระน้ำนก หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับนก
ในขณะที่การตายของนกนั้นยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับอะไรได้ ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ เคยเตือนไปเมื่อเดือนเมษายนเกี่ยวกับเชื้อซาลโมเนลล่าที่แพร่ระบาดจากนกป่าในหลายรัฐ การแพร่ระบาดของเชื้อซาลโมเนลล่าทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย
ส่วนโรคปริศนาที่กำลังระบาดในหมู่นก ประชาชนระบุว่านกส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมออกแนวคิดว่าตัวเองตาบอด ไม่มีการบินหนีคนเหมือนปกติ
ที่มา: usgs, nbcnews, theguardian