วันที่ 29 มิถุนายน สื่อต่างประเทศได้รายงานว่า ศาลฎีกาญี่ปุ่นตัดสินยืนยันโทษประหาร “แม่หม้ายดำ” หญิงญี่ปุ่นวัย 74 ปี ที่สังหารชาย 3 คน และพยายามฆ่าอีก 1 คน เพื่อฮุบสมบัติ หลังมีการอุทธรณ์เข้ามา
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักคดีแม่หม้ายดำที่เป็นที่กล่าวถึงอย่างวงกว้างที่ญี่ปุ่นและทั่วโลกนั้น วันนี้เราจะมาสรุปให้อ่านกันครับ
หญิงที่คู่ครองทั้ง 7 เสียชีวิตลงทั้งหมด
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 จิซาโกะ คาเคฮิ ได้ถูกจับในข้อหาฆาตกรรมสามีของตัวเอง แฟนอีกสองคน และพยายามฆ่าชายในลำดับที่สี่ โดยทุกคนมีอายุระหว่าง 70-80 ปีทั้งหมด
แม่หม้ายดำ จึงกลายเป็นฉายาที่เอาไว้เรียกเธอ เพราะเป็นแมงมุมเพศเมียที่จะกินคู่ของมันหลังการสมสู่
แม้จะถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมชาย 3 คน และพยายามฆ่าอีก 1 แต่จิซาโกะก็มีคู่ครองมาแล้วทั้งหมด 7 คน โดย 4 คนในนั้นได้แต่งงานกันอย่างถูกกฎหมาย
ปี 1994 สามีคนแรกของเธอเสียชีวิตลงด้วยวัย 54 ปี (ไม่ระบุสาเหตุ)
ปี 2006 สามีคนที่สองของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคเส้นเลือดอุดตันหลังแต่งงานกันได้ 2 ปี
ปี 2008 สามีคนที่สามของเธอเสียชีวิตด้วยอายุ 75 ปี (ไม่ระบุสาเหตุ)
ปี 2009 แฟนคู่ครองคนที่สี่ของเธอเสียชีวิตในวัย 75 ปี ด้วยโรคมะเร็ง
ปี 2012 นายมาซาโนริ ฮอนดะ คู่ครองคนที่ห้าที่หมั้นหมายกันกับจิซาโกะแล้ว เสียชีวิตลงหลังจากล้มขณะขี่มอเตอร์ไซค์ หลังชันสูตรศพพบว่ามีไซยาไนต์อยู่ในกระแสเลือด แต่การตายขั้นต้นระบุว่าเกิดจากโรคหัวใจ
กระทั่งในปี 2013 สามีคนที่สี่ของเธอ นายอิซาโอะ คาเคฮิ ได้เสียชีวิตลงหลังแต่งงานกันได้หนึ่งเดือน หลังล้มป่วยกระทันหัน ภายหลังได้มีการตรวจพบไซยาไนต์จำนวนเล็กน้อยในร่างกาย
หลังจากที่นายอิซาโตะเสียชีวิตลง จิซาโกะได้คบหากับชายวัย 75 ปีเป็นคู่ครองคนที่ 7 ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเสียชีวิตลงด้วยอาการป่วย หลังไปดินเนอร์ด้วยกันที่ร้านอาหารกับจิซาโกะ
จากการตายของสามีสองคนล่าสุด ทำให้ตำรวจเริ่มมุ่งเป้ามาที่จิซาโกะ และต่อมาในปี 2014 จิซาโกะก็ถูกตำรวจจับกุมได้สำเร็จ โดยตำรวจได้พบหลักฐานเป็นยาพิษที่ถูกผสมอยู่ในยาของนายคาเคฮิ
คำสารภาพ
จากการสืบสวนพบว่า จิซาโกะ มักจะใช้บริการหาคู่ โดยจะเลือกคบหากับชายที่มีอายุระหว่าง 70-80 ปี ไม่มีบุตร ร่างกายไม่แข็งแรง และมีฐานะร่ำรวย
มีการเผยว่าสามีของเธอที่เสียชีวิตไป ได้ระบุชื่อของจิซาโกะให้รับประโยชน์ในประกันชีวิตด้วย ซึ่งเธอก็ได้รับมามีมูลค่ารวมกันสูงถึงกว่า 1,000 ล้านเยนเลยทีเดียว (ราว 288 ล้านบาท) ก่อนที่เธอจะเสียเงินเหล่านั้นไปเกือบหมดตัวจากการเล่นหุ้นในภายหลัง
ในทีแรกจิซาโกะไม่ยอมรับข้อกล่าวหา ก่อนที่ในปี 2017 เธอออกมายอมรับว่าฆ่า นายอิซาโอะ คาเคฮิ สามีรายที่ 4 หวังเงินประกัน ระบุสาเหตุเพราะโกรธแค้นที่เขาเอาเงินไปให้หญิงคนอื่น แต่เธอกลับไม่เคยได้เลยสักเยน
เธอบอกกับศาลว่าพร้อมที่จะถูกแขวนคอประหารชีวิต แต่แล้วอีก 2-3 วันถัดมา จิซาโกะกลับบอกว่าเธอจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไป ซึ่งก็ดูเหมือนเป็นการกลบเกลื่อน เพราะหลังจากนั้นทนายของเธอก็ได้ขออุทธรณ์โทษประหาร
ปัดตกอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิต
ล่าสุดวันที่ 29 มิถุนายน ศาลศาลฎีกาได้ปัดคำอุทธรณ์ตก ยืนยันคำตัดสินประหารชีวิตจิซาโกะด้วยการแขวนคอ
ศาลได้อ่านคำแถลงการว่า “เธอใช้ไซยาไนด์กับผู้ชายเหล่านั้นหลังจากทำให้พวกเขาไว้ใจว่าเธอเป็นคู่ชีวิต นี่คือการวางแผน เป็นอาชญากรรมโหดร้ายและอยู่บนเจตนาที่ต้องการฆ่าอย่างแรงกล้า”
ทั้งนี้ไม่มีการระบุว่าการประหารชีวิตจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ก็นับว่าเป็นการปิดคดีฆาตกรต่อเนื่องที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลกได้เสียที หลังจากที่ดำเนินการมาอย่างยาวนาน
ที่มา : bbc [1][2], japantimes, cnn