มนุษย์เรามักจะพัฒนาสิ่งใหม่ๆ มาเพื่อช่วยตอบสนองต่อความต้องการบางอย่างได้อยู่เสมอ หากพูดถึงเรื่องลดน้ำหนักแล้วคุณนึกถึงอะไรกัน? ออกกำลังกายหรือคุมอาหารล่ะ?
สิ่งที่จะได้เห็นต่อไปนี้มันเปิดตัวออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ช่วยลดน้ำหนัก จำกัดวิธีการทานอาหารของผู้สวมใส่ให้ทานได้แต่ของเหลว เพราะมันจะรั้งปากของผู้สวมใส่เอาไว้ ไม่ให้สามารถอ้าปากทานอะไรลงไปได้เลย
อุปกรณ์ตัวนี้จะป้องกันผู้สวมใส่ไม่ให้ทานอาหารทั่วไป ด้วยการที่ตัวแม่แหล็กจะดูดเข้าหากันจากตำแหน่งที่สวมใส่บริเวณฟันซี่บนและล่าง ไม่ให้อ้าปากได้เกิน 2 มิลลิเมตร
ชื่ออุปกรณ์ช่วยลดน้ำหนักของมันคือ DentalSlim Diet Control พัฒนาโดยทีมนักวิจัยจากมหาวิยาลัยโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ รวมกับนักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษอีกนิดหน่อย และมันก็ผ่านการทดลองใช้กับผู้หญิงที่น้ำหนักเกินมาแล้ว 7 คนด้วยกัน
ทางมหาวิทยาลัยถึงกับยกให้มันเป็นอุปกรณ์ช่วยลดน้ำหนักชิ้นแรกของโลก เพื่อสู้กับโรคอ้วนที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกเลยทีเดียว
Otago and UK researchers have developed a world-first weight-loss device to help fight the global obesity epidemic: an intra-oral device that restricts a person to a liquid diet. Read more: https://t.co/eLhXwipiqs pic.twitter.com/Of6v3uvVbX
— University of Otago (@otago) June 28, 2021
ผลการทดลองอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถหาอ่านได้ที่เว็บไซต์ BDJ อธิบายผลการทดลองกับผู้หญิง 7 คนที่สวมใส่แม่เหล็กตัวนี้เข้าไปตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์เต็ม ในระหว่างนั้นก็ทานได้แต่อาหารเหลว ทานอาหารแบบปกติที่ต้องเคี้ยวไม่ได้ (เพราะอ้าปากมากไม่ได้)
ผลสรุปส่งท้ายการทดลองก็คือผู้หญิงเหล่านั้นมีน้ำหนักลดลงประมาณ 5.1% จากน้ำหนักเดิม หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 6.36 กิโลกรัม เหมือนจะดูดีแต่ก็ไม่เชิงขนาดนั้น เพราะผู้ทดลองใช้เองต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่ามันรู้สึกอึดอัดและพูดลำบาก ทำให้ชีวิตโดยรวมลำบากกว่าเดิม
บนโลกโซเชียลเองก็มีความคิดเห็นต่อเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ไปในทิศทางเดียวกัน ‘ไม่ควรหาทำ’ นั่นก็เป็นเพราะไม่ได้ช่วยทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นอย่างแน่นอน การได้ทานอาหารตามปกติถือเป็นสิ่งที่ดีแล้ว การบังคับตัวเองด้วยการห้ามอ้าปากแบบนี้ไม่ต่างอะไรไปจากเครื่องทรมานเลย
อีกประเด็นก็คือหนึ่งในผู้ร่วมทดสอบออกมายอมรับตามตรงว่า ‘โกงตัวเอง’ ด้วยการละลายช็อคโกแลตแล้วกินเข้าไป รวมไปถึงดื่มน้ำอัดลมระหว่างทดลองใช้งาน ยังไม่รวมถึงการลงทุนพัฒนาอุปกรณ์ชิ้นนี้หมดไปหลายล้านบาท และก็เอามาขายแพงๆ ทำเอาหลายคนส่ายหน้าไปตามๆ กัน
แต่ถึงอย่างนั้นทางมหาวิทยาลัยโอทาโกชี้แจงว่า มันไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหรือใช้สำหรับระยะยาว แต่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดและไม่สามารถผ่าตัดได้จนกว่าน้ำหนักจะลดลงเสียก่อน
ที่มา: otago.ac.nz, @otago
