Pfizer และ BioNTech ประกาศว่ากำลังพัฒนาบูสเตอร์อีกหนึ่งช็อต สำหรับจัดการกับโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่กำลังแพร่ระบาดในบางพื้นที่ของโลก
ทางบริษัทวัคซีนระบุว่า ถึงแม้ปัจจุบันวัคซีน 2 เข็มนั้นจะป้องกันไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมได้ แต่พวกเขาจะมีผลการศึกษาที่เชื่อได้ว่าถ้าสามารถพัฒนาเข็มที่ 3 ได้สำเร็จ จะสร้างภูมิคุ้มกันระดับสูงสุดสำหรับไวรัสทุกสายพันธุ์ในตอนนี้ ครอบคลุมถึงเดลต้าด้วย
สำหรับไวรัสสายพันธุ์เดลต้านั้น ทางองค์การอนามัยโลกระบุว่า มันสามารถแพร่สู่กันได้มากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 55%
ซึ่งสายพันธุ์เดลต้า ก็เป็นเรื่องกังวลของหลายๆ ประเทศ ทั้งอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ทั้งญี่ปุ่นที่มีคำสั่งห้ามคนเข้าสนามในโอลิมปิกครั้งนี้ รวมถึงการแพร่ระบาดในกรุงเทพมหานครอีกด้วย
ตามข้อมูลระบุว่า วัคซีน 2 โดสของ Pfizer ในปัจจุบันนั้น แม้จะป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการติดต่อสู่กันของสายพันธุ์เดลต้า รวมถึงอาจจะทำให้มีไข้เล็กน้อยอยู่
ทางผู้บริหารของ Pfizer ระบุว่าคนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 โดส ก็ควรจะได้รับโดสบูสเตอร์ดังกล่าว ภายใน 12 เดือนหลังจากฉีดครบ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาว ซึ่งในอนาคตไม่แน่ว่าอาจจะต้องได้รับวัคซีนอีกโดสในทุกปี
“อย่างที่เราเห็นข้อมูลจากประเทศอิสราเอล ประสิทธิภาพของวัคซีนนั้นลดลงภายในเวลาประมาณ 6 เดือนหลังจากฉีดครบโดส ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สายพันธุ์เดลต้า เริ่มแพร่ระบาดในประเทศ”
บริษัท Pfizer กล่าวถึงเหตุการณ์ไวรัสแพร่ระบาดอีกครั้งในอิสราเอล ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสมากที่สุดในโลกแล้ว
“เราจึงเชื่อจากข้อมูลที่เรามีว่า ผู้คนน่าจะจำเป็นต้องได้รับ “บูสเตอร์” หรือโดสที่ 3 ภายในเวลา 6-12 เดือน หลังจากได้รับวัคซีนครบโดสในรอบแรกแล้ว”
สำหรับโดสบูสเตอร์ หรือโดสที่ 3 นั้น คาดว่าจะพัฒนาเสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ และถ้าไม่ติดปัญหาอะไร ชาวอเมริกันหรือชาวอิสราเอล อาจจะได้เริ่มฉีดก่อนในเดือนสิงหาคมนี้เลยก็เป็นได้
เรียบเรียง #ประธานเหมียว
ที่มา: