พ่อเด็กหญิงนักกระโดดน้ำจีนเหรียญทอง ปฏิเสธเงินอัดฉีด-ที่พักอาศัยฟรี ครอบครัวโดนรบกวนหนัก

การคว้าเหรียญทองกลับบ้านเกิดจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติแล้วยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวนักกีฬาเองด้วยเช่นกัน

กรณีของนักกระโดดน้ำหญิงวัย 14 ปีชาวจีน Quan Hongchan คว้าเหรียญทองจากโตเกียวโอลิมปิกได้สำเร็จ ทำให้เกิดฐานแฟนคลับที่ชื่นชอบในผลงานการแข่งขันของน้อง จนถึงขั้นมีการเสนอเงินอัดฉีด ของขวัญต่างๆ เพื่อมอบให้กับน้องและครอบครัวจากการคว้าเหรียญทอง

เหล่าธุรกิจกิจการร้านค้าต่างยื่นข้อเสนอมอบสินค้า ทรัพย์สินต่างๆ ให้ไม่ว่าจะเป็นแฟลทที่พักอาศัย และอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ รวมไปถึงนักธุรกิจท้องถิ่นที่พร้อมเสนอเงินอัดฉีดให้กับพ่อของน้องเป็นจำนวน 200,000 หยวน (1,028,816 บาท)

แต่ทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้น พ่อของน้องปฏิเสธไม่ขอรับอะไรทั้งสิ้น

เขากล่าวไว้ว่า “ขอบคุณทุกความหวังดี แต่ผมไม่ต้องการอะไร ผมไม่ขอรับเงินแม้แต่แดงเดียว”

รายงานของสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า มีขนมขบเคี้ยวบางส่วนที่น้องได้มาถูกนำไปส่งต่อให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้าน ส่วนของขวัญอื่นๆ ที่ได้รับมานั้นทางคณะกรรมหมู่บ้านจะเป็นคนดูแลแทน

โรงพยาบาลท้องถิ่นในเมืองฉานเจียงได้ประกาศว่าจะช่วยดูแลแม่และปู่ของน้องที่มีอาการป่วย ด้วยการช่วยรักษาให้แบบครบวงจรโดยไม่คิดค่ารักษา

ทั้งนี้ เป้าหมายแรกของน้อง Quan ที่มาแข่งขันกระโดดน้ำเป็นเพราะเธอต้องการหาเงินเพื่อนำไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของคุณแม่

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในบ้านเกิด

หลังจากได้รับของขวัญของรางวัลต้อนกลับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนในบ้านเกิดต่างรู้สึกประทับใจในเรื่องราวและผลงานเหรียญทองของน้อง ถึงขนาดที่ว่าอยากจะไปเจอตัวน้องแบบเป็นๆ ที่หมู่บ้าน

หมู่บ้านของน้องต้องเจอกับคนต่างถิ่นที่แวะเวียนมาหาเจ้าเหรียญทองกว่า 2,000 คน หลังจากที่น้อง Quan คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ

รายงานระบุว่าคนที่แวะเวียนเข้ามาในหมู่บ้านมักจะรอจนถึงมืดค่ำ ทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อคนในหมู่บ้านและครอบครัวของน้อง บางคนถึงขั้นปีนต้นไม้เพื่อดูบ้านน้องแบบชัดๆ

คนที่แห่ไปหมู่บ้านของน้อง พากันมาเคาะประตูบ้านเพื่อขอถ่ายเซลฟี่กับคนในครอบครัว หรือบางรายพยายามขโมยลูกขนุนจากบ้านของเจ้าเหรียญทองเพื่อเอาไปเป็นของที่ระลึกก็มี

ในที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่รัฐจึงต้องปิดหมู่บ้านไม่ให้คนนอกเข้ามา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19

ที่มา: insider, jjjcb.ccdi.gov.cn, bbc, scmp, globaltimes