ด้วยสถานการณ์ภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะต้องเคยได้ยินข่าวผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นจริงๆ บนโลกกันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเหตุน้ำแข็งละลายที่กรีนแลนด์ หรือเขตมรณะในมหาสมุทร
แต่ทราบกันหรือไม่ว่านอกจากเหตุการณ์ข้างต้นแล้ว ภาวะโลกร้อนในปัจจุบันก็กำลังทำให้นักวิทยาศาสตร์ กังวลถึงความเป็นไปได้อีกอย่างอยู่ นั่นคือ “ภาวะแห้งแล้งรุนแรง” ที่สาหัสมากพอที่จะทำลายอารยธรรมเลยนั่นเอง
ภาวะแห้งแล้งรุนแรงที่กล่าวมาข้างต้นนี้ถูกอธิบายไว้ในวารสาร Journal of Climate ว่าเกิดขึ้นจากการที่แหล่งน้ำขนาดใหญ่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ได้เริ่มมีอุณหภูมิอุ่นขึ้นกว่าพื้นที่รอบ
ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสลม และทำให้อุณหภูมิพื้นที่รอบ ซึ่งจะนำไปสู่อาการที่ร้อนขึ้น และความแห้งแล้งรุนแรงในพื้นที่รอบๆ ได้ไม่ยาก
โดยจากรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Reuters ภัยแล้งที่ว่านี้ในปัจจุบันเริ่มจะส่งผลให้เห็นแล้วในชิลีซึ่งผู้คนกำลังต้องประสบปัญหาภัยแล้ง อย่างหนักจนรัฐบาลต้องส่งรถน้ำจำนวนมากออกมาเพื่อรักษาชีวิตประชาชนในเขตแร้นแค้นกว่า 4 แสนชีวิต
และที่สำคัญเรื่องราวพวกนี้ก็ยังอาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของภัยแล้งครั้งใหญ่ซึ่งอาจจะตามมาในอนาคตอันใกล้ด้วย เพราะด้วยภาวะโลกร้อนในปัจจุบันมันจะไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่แหล่งน้ำในมหาสมุทรอีกหลายที่จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นในรูปแบบเดียวกันนี้
โดยนาย Rene Dario Garreud หัวหน้าทีมวิจัยและมหาวิทยาลัยชิลีในซันติอาโก นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ ได้ระบุเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า
“แม้เราทราบดีว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิแหล่งน้ำเป็นจุดๆ นี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่มันก็สามารถรุนแรงขึ้นได้มากๆ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจุดเหล่านี้ถึงคงอยู่ยาวนานนัก และรุนแรงกว่าที่ควรจะเป็นเช่นนี้”
และหากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปมันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ภัยแล้งครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นนี้จะทำลายอารยธรรมบางที่ของมนุษย์ไปแบบสิ้นเชิง อย่างที่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีตกับชาวมายาหรือราชวงศ์หมิงในอดีต
ที่มา
journals.ametsoc.org/view/journals/clim/34/18/JCLI-D-20-0886.1.xml
www.reuters.com/world/americas/climate-change-fueling-warm-ocean-blob-causing-chile-megadrought-study-2021-08-26/
futurism.com/the-byte/megadroughts-collapse-entire-civilizations