สำหรับคนที่เคยมีโอกาสไปตรวจโรคโควิด-19 เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะทราบกันว่าหนึ่งในการตรวจยอดนิยมของโรคนี้จะมีการแหย่จมูกรวมด้วย ซึ่งถูกเตือนโดยแพทย์อยู่บ่อยครั้งว่าต้องทำให้ถูกวิธี ไม่เช่นนั้นอาจไม่ได้ผลหรือเสี่ยงจมูกอักเสบได้
อย่างไรก็ตามสำหรับหนุ่มคนหนึ่งในสาธารณรัฐเช็ก การแหย่จมูกตรวจโควิดของเขาก็ดูจะผิดพลาดจนนำมาซึ่งปัญหาวุ่นวายกว่าที่คิด นั่นเพราะเขานั้นดูจะแทงจมูกแรงไปจนน้ำเลี้ยงไหลออกจากสมองเลย
เรื่องราวกรณีศึกษาในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2020 เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งไปตรวจโควิดด้วยการแหย่จมูกหลังจากที่เขาได้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อมาก่อนหน้า
โดยในเวลานั้นผลตรวจของเขาออกมาเป็นลบก็จริง แต่หลังจากการตรวจเจ้าตัวกลับมีอาการน้ำมูกไหลจากรูจมูกขวาเท่านั้น แถมยังเป็นอย่างต่อเนื่องไม่หยุดแม้เวลาผ่านไปหลายเดือนด้วย
ในตอนแรกชายคนนี้ไม่ได้ใส่ใจอาการของตนมากนัก เพราะเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นโรคภูมิแพ้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปถึงเดือนธันวาคมแต่อาการก็ยังไม่หาย เขาจึงตัดสินใจเข้าพบแพทย์ในที่สุด
เมื่อแพทย์ของทำการ CT scan กะโหลกของชายคนนี้ดูพวกเขาก็ได้พบกับความจริงอันแสนน่าทึ่ง นั่นเพราะชายคนนี้ มีอาการบาดเจ็บที่แผ่น “Cribriform” กระดูกรูพรุนที่แยกจมูกและสมองออกจากกัน (เป็นไปได้ว่าเกิดจากการแหย่แรงเกินหรือผิดมุม)
ซึ่งทำให้ต่อมาเขาถูกวินิจฉัยว่ามีอาการ น้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง (CSF) รั่ว อาการหายากซึ่งของเหลวใสที่ล้อมรอบสมองและไขสันหลังรั่วไหลผ่านข้อบกพร่องในกะโหลกศีรษะ โดยในกรณีนี้มันไหลผ่านรูจมูกของเขา
อาการที่เกิดขึ้นนี้ถือว่าอันตรายมากเพราะการรั่วของของเหลวนี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงของเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ ดังนั้นพ่อมนุษย์คนนี้จึงต้อง ได้รับการผ่าตัดเพื่อปิดอาการบาดเจ็บที่แผ่น cribriform พร้อมทานยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อเป็นระยะเวลาหนึ่งเลย
ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีมากที่เขาสามารถหายดีโดยที่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต แม้ว่าในการติดตามผลในอีก 3 สัปดาห์ต่อมา เขาจะรายงานว่าไม่สามารถดมกลิ่นใดๆ ได้จากรูจมูกขวาก็ตาม
(กรณีศึกษานี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Jama Network เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2021 ที่ผ่านมา)
ที่มา livescience, futurism และ Jama Network