ด้วยสถานการณ์โรคร้ายในปัจจุบัน มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครๆ ก็คงจะกำลังให้ความสนใจต่อโรคโควิด-19 เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามในประเทศอินเดีย ประชาชนที่นั่นก็ดูจะกำลังต้องเผชิญกับการกลับมาของไวรัสร้ายอีกตัว และไวรัสที่ว่าก็กำลังเป็นที่จับตาของเหล่าผู้เกี่ยวข้องเลยด้วย
ไวรัสที่กำลังเป็นข่าวที่ว่านี้คือ “ไวรัสนิปาห์” ไวรัสซึ่งทำให้ผู้ติดป่วยเป็นไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ หายใจติดขัด โดยมันถูกพบครั้งแรกในมาเลเซียเมื่อปี 1998 และคาดว่ามาจากค้างคาวผลไม้หรือไม่ก็สุกรอีกที
ไวรัสนิปาห์มีสุดเด่นอยู่ที่โอกาสเสียชีวิตที่สูงถึง 70-75% แถมยังไม่มีทั้งยารักษาและวัคซีน ดังนั้นเราจึงมีผู้เชี่ยวชาญไม่น้อยที่บอกว่ามันอาจจะรุนแรงมากกว่าโควิด-19เลย
โดยสำหรับการติดต่อของไวรัสตัวนี้ในประเทศอินเดียนั้น เริ่มกลายเป็นที่รู้จัก ในวันที่ 5 กันยายน เมื่อมีข่าวเด็กในรัฐเกรละเสียชีวิตด้วยโรคประหลาดที่ไม่ใช่โควิด ก่อนที่ต่อมาโรคดังกล่าวจะถูกยืนยันว่าเกิดจากไวรัสนิปาห์
“เป็นการยากที่จะระบุสาเหตุของอาการป่วยของเด็กชาย (ที่เสียชีวิตไป) ผู้ที่ติดเชื้อป่วยเกินกว่าจะบอกเราได้ว่าเขากินหรือทำอะไร สาเหตุที่เขาติดไวรัสจริงมาจากคาดเดาทั้งสิ้น”
นพ. เทพกุมการะ สุเรนทรัน อนิช รองศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ แห่งวิทยาลัยแพทยศาสตร์รัฐบาลระบุ
ตั้งแต่วันนั้นมา ในพื้นที่รัฐเกรละก็เริ่มมีรายงานผู้ป่วยไวรัสนิปาห์เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จนในปัจจุบันเรามีรายงานผู้ติดเชื้ออย่างน้อยๆ 68 เคส ในขณะที่อีกกว่า 251 รายยังอยู่ในระหว่างการเฝ้าดูอาการ
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลรัฐกรณาฏกะซึ่งอยู่ใกล้ๆ รัฐเกรละถึงขั้นต้องออกมาสั่งการให้การบริหารของอำเภอที่มีพรมแดนติดกับรัฐเกรละเสริมการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือกับผู้ป่วยที่อาจเดินทางข้ามรัฐมา
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามด้วยความที่เรื่องราวหลายๆ อย่างของโรคนี้ยังคงเป็นอะไรที่ไม่ชัดเจนนัก การจะรับมือกับโรคร้ายนี้จึงยังคงถือว่าเป็นอะไรที่ยากลำบาก และต้องได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดเลย
ที่มา hindustantimes, fox10phoenix, npr