ปัญหาเรื่องโรงเรียนกับการตัดผมนั้นสำหรับประเทศไทยแล้ว คงจะถือว่าเป็นข่าวที่หลายๆ คนเห็นกันจนชินตา และเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ แทบทุกปี จนหลายๆ คนอาจจะเคยสงสัยกันว่าเรื่องแบบนี้มันจะเป็นอะไรหากเกิดขึ้นในต่างประเทศ
นั่นเพราะล่าสุดนี้เองในสหรัฐอเมริกา เราก็เพิ่งจะมีข่าวคุณพ่อรายหนึ่งออกมาฟ้องร้องครูของโรงเรียนประถมของรัฐมิชิแกน หลังจากที่ครูตัดผมของลูกสาวของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เด็กหญิงเจอร์นี่ ฮอฟเมเยอร์วัย 7 ขวบ ถูกเพื่อนใช้กรรไกรตัดผมด้านข้างของศีรษะจนแหว่งขณะนั่งรถไปโรงเรียนโรงเรียนเมาท์ เพลเซ็นต์ ส่งผลให้นายจิมมี่ ฮอฟเมเยอร์ พ่อต้องเธอต้องพาเธอไปแก้ทรงผมใหม่
ปัญหาคือในวันต่อมาเด็กหญิงคนเดียวกันนี้ กลับถูกครูและบรรณารักษ์ตัดผมซ้ำอีก โดยอ้างว่าต้องการเล็มผมให้เท่ากัน ทั้งๆ ที่มันเป็นทรงที่คุณพ่อตั้งใจให้ร้านตัดเพื่อซ่อนผมด้านที่แหว่งจนสั้น
ผมถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้นและบอกเธอว่า
“พ่อบอกลูกแล้วนิว่า อย่าให้มีเด็กคนไหนมาตัดผมลูกอีก”
แต่เธอก็บอกผมว่า “คราวนี้คนตัดเป็นครูนะพ่อ “
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แน่นอนว่าทำให้คุณจิมมี่ ไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้ผมของลูกสาวเขา สั้นลงจนเหลือเพียงไม่กี่นิ้ว แถมแม้ครูคนอื่นจะทราบเรื่อง พวกเขาก็ไม่คิดจะช่วยลูกสาวของตนเลยด้วย (แม้ทั้งหมดจะออกมาขอโทษแล้ว)
ดังนั้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2021 ที่ผ่านมา หลังจากที่ย้ายโรงเรียนให้แก่ลูกสาว นายจิมมี่ จึงตัดสินใจยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาลรัฐมิชิแกน เพื่อเอาผิดกับผู้ช่วยครูและบรรณารักษ์ โดยมีการเรียกร้องเงินถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33 ล้านบาท)
ส่วนทางโรงเรียนก็ได้มีการออกมาเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว และยืนยันว่าครูนั้น ตัดผมให้เด็กเพียงเพราะความหวังดีไม่มีเจตนาที่จะเหยียดชนชาติแต่อย่างไร
ดังนั้นแม้ว่าการตัดผมเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาตจะเป็นการละเมิดนโยบาย ทั้งคู่จึงแค่ถูกตักเตือนและยังสามารถทำงานในโรงเรียนต่อไปได้อยู่ อย่างไรก็ตามหากมีการทำผิดซ้ำ ทางโรงเรียนจะยกเลิกสัญญาของทั้งสองทันที
ที่มา nbcnews, theguardian, unilad และ brighttv