ในเวลาที่มีข่าวคดีฆาตกรรมหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนจะให้ความสนใจที่สุดก็คงจะไม่พ้นอาวุธที่คนร้ายใช้ ซึ่งอาจเป็นได้หลากหลายตั้งแต่ปืน มีด หรือของใช้ต่างๆ ในบ้าน
แต่มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่เราจะได้เห็นกันบ่อยนักที่เราจะได้เห็นคดีฆาตกรรมแปลกๆ ที่คนร้ายจะใช้ “พิษงู” เป็นอาวุธ โดยเฉพาะเมื่อพิษงูดังกล่าวมาจากงูที่เช่าคนอื่นมาอีกทีแล้วด้วย
แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วในเมืองโคลลัม รัฐเกรละ ของประเทศอินเดีย เมื่อชายวัย 32 ปีชื่อ P. Sooraj ได้ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง หลังจากที่เจ้าตัวเช่างูเห่ามาใช้สังหารภรรยา
โดยเรื่องในครั้งนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เมื่อนาง Uthra วัย 25 ปี ถูกงูเห่ากัดภายในบ้านของตัวเองจนต้องเข้ารับการรักษา ก่อนที่ไม่นานหลังจากเธอฟื้นตัวจากการถูกกัดครั้งแรกเธอจะถูกงูเห่ากัดอีกครั้งจนเสียชีวิต
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้แม้ดูเผินๆ จะเหมือนเป็นอุบัติเหตุแต่ทางครอบครัวของฝ่ายหญิงกลับไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นนัก พวกเขาจึงตัดสินใจแจ้งความ และทำการสืบคดีดังกล่าว จนพบว่านาย P. Sooraj นั้นมีการติดต่อเช่างูเห่าจากคนรู้จัก
แถมยังศึกษาเรื่องการจัดการงูและพิษงูร้ายแรงบนอินเทอร์เน็ตมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
น่าเสียดายที่คดีในครั้งนี้ ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ดังนั้นอัยการจึงต้องอาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคเพื่อพิสูจน์ความผิดของสามีแทน
โดยพวกเขาได้ทำการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมด้วยความช่วยเหลือจากนักสัตววิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จนพบว่ารอยแผลงูกัดของ Uthra นั้น มีความห่างผิดจากรอยแผลงูกัดตามปกติ แสดงให้เห็นว่างูตัวนี้ถูกแรงภายนอกกดลงบนตัวเหยื่อ
ซึ่งความจริงในจุดนี้บวกกับการที่ผู้ดูแลงูยืนยันว่านาย P. Sooraj มีการเช่างูไปจริงๆ และซากงูในที่เกิดเหตุมีร่องรอยของการอดอาหาร (เพื่อให้มันดุร้ายขึ้น)
ทางศาลจึงตัดสินให้ นาย P. Sooraj มีความผิดภายใต้ประมวลกฎหมายอาญาของอินเดีย มาตรา 302 (การฆาตกรรม), 328 (การครอบครองยาพิษหรืออันตราย), 307 (การพยายามฆ่า) และ 201 (การทำลายหลักฐาน) ซึ่งอาจมีโทษถึงขั้นประหารชีวิตได้เลย
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมชายคนนี้ถึงลงเมื่อสังหารภรรยานั้น ในระหว่างการสอบสวน ทีมสืบสวนพิเศษได้พบว่า นาย P. Sooraj นั้นกำลังวางแผนที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ ดังนั้นเขาจึงพยายามกำจัดภรรยาเก่า และหวังจะเอาเครื่องประดับของเธอไปใช้นั่นเอง
ที่มา odditycentral, thenationalnews และ hindustantimes