หลังจากที่เข้าโรงฉายไปในประเทศจีนเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2021 ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์อย่าง Dune ก็ต้องกลายเป็นกระแสพูดคุยถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ไปจนได้
เมื่อในช่วงปลายเดือนตุลาคมในโลกทวิตเตอร์ได้มีชาวเน็ตจำนวนหนึ่งออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับโปสเตอร์หนังเรื่อง Dune ของจีน
โดยอ้างว่าโปสเตอร์ดังกล่าวอาจมีการจงใจตัดภาพนักแสดงผิวดำอย่างคุณชารอน ดันแคน-บริวสเตอร์ ออกไป และใส่นักแสดงชาวไต้หวันอย่างคุณฉาง เฉิน เข้าไปแทน
.
https://twitter.com/MailOnline/status/1453052757271846932
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ได้กลายเป็นกระแสพูดคุยถึงความเหมาะสมในโลกออนไลน์ไปอย่างรวดเร็ว
เพราะก่อนหน้านี้เองในปี 2015 ประเทศจีนก็เคยตกเป็นข่าวคล้ายๆ กันจากกรณีการย่อขนาดภาพนักแสดง John Boyega ในโปสเตอร์โปรโมตสำหรับภาพยนตร์ “Star Wars: The Force Awakens” มาแล้ว
ดังนั้นชาวเน็ตฝั่งตะวันตกหลายคนจึงมองว่าการกระทำในครั้งนี้อาจเป็นการจงใจเหยียดผิวของผู้ชมและสื่อชาวจีนก็ได้
Star Wars' Finn (who happens to be black) and Chewbacca (happens to be Wookiee) get shafted in China. HT @asmuniz pic.twitter.com/ATpvcd51L6
— ray 鄺羡華 (@raykwong) December 1, 2015
แต่เรื่องราวในครั้งนี้ก็ดูจะซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้น เมื่อชาวเน็ตอีกกลุ่มหนึ่งได้ออกมาตอบโต้คำกล่าวอ้างข้างต้นว่าจริงๆ แล้ว โปสเตอร์ที่เป็นข่าวนั้น มีการใช้งานแม้แต่ในทางตะวันตกด้วย
อีกทั้งในประเทศจีนก็มีการใช้โปสเตอร์ทั้งสองแบบในการโปรโมตภาพยนตร์ Dune (แถมแบบที่มีคุณชารอนอยู่ยังนิยมกว่าด้วยซ้ำ) ดังนั้นการที่ตัวละครบนปกเปลี่ยนไป จึงน่าจะเพียงเพื่อไม่ให้ตัวโปสเตอร์ดูซ้ำซากเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเหยียดผิวใดๆ เลย
No they didn't. That is one of the many posters made by the studio and used in the West as well, but as a matter of fact, China is mostly using the version with Sharon present. You could've very easily verified this on your own. pic.twitter.com/ODGhLD2Yi9
— Daniel Dumbrill (@DanielDumbrill) October 24, 2021
ถึงอย่างนั้นก็ตาม เราก็ยังคงมีชาวเน็ตอีกไม่น้อยที่ยังไม่ยอมแพ้บอกว่า แม้โรงหนังบางแห่งของจีนจะมีการใช้โปสเตอร์ต้นฉบับก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขความจริงที่ว่าประเทศจีนมักมีการทำโปสเตอร์อีกแบบซึ่งเอานักแสดงผิวดำออกไปอยู่ดี
ดังนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงดูจะยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันต่อไปอีกสักพักเลย
ที่มา thetimes, nextshark, taiwannews