กลุ่มอาการออทิซึม (ASD) หรือที่เรามักคุ้นเคยกันในชื่อ “โรคออทิสติก” คือกลุ่มอาการความผิดปกติของพัฒนาการเด็ก ที่มีลักษณะอาการค่อนข้างกว้าง ทั้งในด้านทางสังคม การสื่อสาร หรือความสนใจ
มันถูกค้นพบในช่วงปี 1911 และเคยถูกเชื่อกันว่าส่งผลกับเด็กๆ ราวๆ 1% ของ คนทั้งหมด อย่างไรก็ตามในงานวิจัยชิ้นใหม่ในสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้พบว่าตัวเลขของเด็กที่มีอาการ ASD นั้น กำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
จนถึงขั้นที่ในปัจจุบันเด็กในสหรัฐฯ ถึง 1 ใน 44 คนเลยที่มีอาการ ASD
ข้อมูลจุดนี้ได้รับการเปิดเผยออกมาโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเด็กอายุ 8 ขวบ (ในปี 2018) กว่าสองแสนคนในรัฐต่างๆ และพบว่า
มีเด็กๆ ถึง 1 ใน 44 คน หรือราวๆ 2.27% ที่มีอาการ ASD เพิ่มขึ้นกว่าที่เคยคาดไว้พอสมควร เมื่อเทียบกับในปี 2016 ซึ่งมีเด็ก 1 ใน 54 คน (ราวๆ 1.85%) ถูกตรวจพบว่ามีอาการ ASD
ตัวเลขที่ออกมา ทำให้หลายคนไม่น้อยเลยที่รู้สึกไม่สบายใจ เพราะคิดว่ามันอาจจะมีปัจจัยสำคัญบางอย่างที่กำลังส่งผลต่อตัวเลขนี้ อย่างคุณภาพของอาหาร หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตอยู่ก็ได้
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็มองว่าการเพิ่มขึ้นนี้ น่าจะเกิดจากความตระหนักถึงโรคนี้มากขึ้นในหมู่ผู้ปกครองเป็นหลัก ซึ่งทำให้มีการตรวจพบโรคมากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต
และแม้ตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นแล้วก็ตาม ทีมวิจัยก็เชื่อว่าจริงๆ แล้ว เราคงจะมีเด็กๆ อีกหลายคนเลย ที่ยังคงต้องได้รับผลกระทบจากอาการ ASD โดยที่ไม่มีใครรับรู้
ที่มา
www.cdc.gov/mmwr/volumes/70/ss/ss7011a1.htm
www.iflscience.com/health-and-medicine/autism-diagnoses-in-us-rise-to-one-in-44-children-aged-8-years/
gizmodo.com/one-in-44-u-s-children-are-being-diagnosed-with-autism-1848156967
people.com/health/1-in-44-u-s-children-are-diagnosed-with-autism-new-cdc-data-suggests/