สำหรับประเทศแถบอเมริกาใต้อย่าง “ชิลี” ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นอีกช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งของประเทศเลย เพราะนี่คือวันประกาศผลการเลือกตั้งครั้งสำคัญ ที่จะกำหนดแนวทางของประเทศต่อไป
ซึ่งหลังจากที่การนับคะแนนดำเนินไปแล้ว 99.95% ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ก็ออกมาว่า
นาย “กาเบรียล บอริก” วัย 35 ปี หัวหน้าพรรคโซเชียลคอนเวอร์เจนซ์ (ซีเอส) ฝ่ายซ้าย ได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่งอย่างนายโฆเซ อันโตนิโอ คาสต์ไป ด้วยคะแนนเสียง 55.87% ต่อ 44.13%
ซึ่งเป็นความห่างของคะแนนที่มากกว่าที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้พอสมควร
ผลการเลือกตั้งนี้ได้ทำให้ กาเบรียล บอริก ผู้เป็นอดีตแกนนำนักศึกษาขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมือง (รู้จักกันในชื่อ ความขัดแย้งทางการศึกษาของชิลีช่วงปี 2011-2013) ได้กลายเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดของประเทศไป
และเป็นประธานาธิบดีที่เป็นฝ่ายเสรีนิยมมากที่สุด นับตั้งแต่การเสียชีวิตของประธานาธิบดีซัลวาดอร์ อัลเลนเดในระหว่างทหารทำรัฐประหารในปี 1973 ซึ่งทำให้ประเทศต้องตกอยู่ในระบอบเผด็จการนานถึง 17 ปีด้วย
นายบอริก ได้ระบุว่าเขาขอบคุณชาวชิลีทุกคนที่ไปลงคะแนนเสียง และสัญญาว่าจะให้เกียรติต่อความมุ่งมั่นในหลักประชาธิปไตยของผู้ลงคะแนนเสียง เพราะนี่คือประเทศของชาวชิลีทุกคน
และทั้งนี้เอง หลังจากที่การเลือกตั้งปิดฉากลงนายบอริกก็จะมีกำหนดการเข้าทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 มีนาคม 2022 ที่จะถึงนี้ต่อไป
ที่มา
www.nytimes.com/2021/12/19/world/americas/chile-president-election.html
edition.cnn.com/2021/12/19/americas/chile-election-gabriel-boric-intl-nk/index.html
www.bbc.com/news/world-latin-america-59715941