ในช่วงเวลาที่การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคร้ายแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้วเช่นนี้ หลายฝ่ายไม่น้อย ก็ดูจะเริ่มคิดการณ์ไกลถึงการรับมือกับ การแพร่ระบาดของโรคร้ายตัวใหม่ในอนาคตกันแล้ว
แต่ทราบกันหรือไม่ว่าแม้แต่เรื่องที่ฟังดูธรรมดาอย่างการเปลี่ยนหลอดไฟนั้น ก็อาจจะมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคร้ายในอนาคตได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย
เพราะล่าสุดนี้เอง ภายในวารสาร Scientific Reports นักวิทยาศาสตร์ก็เพิ่งจะออกมาประกาศการค้นพบที่ว่า
หากเราเปลี่ยนหลอดไฟในห้องให้เป็นหลอดแสงอัลตราไวโอเลตชนิดพิเศษ มันจะสามารถลดเชื้อโรคในอากาศได้ถึง 98 % ทำให้ภายในอาคารมีความปลอดภัยในแง่ของการแพร่เชื้อไวรัสจากคนสู่คนเท่ากับกลางแจ้งเลย
เจ้าหลอดแสงอัลตราไวโอเลตตัวใหม่นี้ มีความพิเศษตรงที่มันจะสามารถฉายแสงชื่อ “far-UVC” ซึ่งมีความยาวคลื่น สั้นกว่าแสง UV ตามปกติ (222 นาโนเมตร) แต่ไม่ทำให้เกิดอันตรายกับผิวและตาของมนุษย์เหมือน UVC (ความยาวคลื่น 254 นาโนเมตร) ที่ใช้ฆ่าเชื้อในน้ำ
โดยหลอดไฟชนิดนี้ เคยถูกนำไปทดลองกับเชื้อโควิดมาแล้ว ในช่วงปี 2020 โดยทีมนักวิจัยในญี่ปุ่น และได้ผลดีอย่างน่าพอใจ จนสนามบินบางแห่งเลือกใช้มันในการตรวจป้องกันโรคอีกทางเลย
ที่สำคัญเนื่องจากวิธีที่แสง far-UVC ใช้ฆ่าเชื้อโรค มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เชื้อโรคจะ “ดื้อยา” ต่อแสงเช่นนี้ได้ ทำให้การใช้ far-UVC ไม่มีความเสี่ยงแบบเดียวกับยาปฏิชีวนะด้วย
ซึ่งประโยชน์ทั้งหมดนี้ ก็ทำให้มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงนักที่เราจะบอกว่าแสง far-UVC นั้น ถือเป็นหนทางการป้องกันโรคที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
และด้วยความที่แสง far-UVC สามารถติดตั้งได้ในราคาไม่สูงมาก มันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าในอนาคตเราก็อาจจะได้เห็นอุปกรณ์ชิ้นนี้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเลยก็ได้
ที่มา
www.nature.com/articles/s41598-022-08462-z
www.iflscience.com/health-and-medicine/we-could-prevent-future-pandemics-by-switching-on-a-new-type-of-light/
www.catdumb.tv/ultraviolet-c-222-nm-kill-covid-378/