ด้วยภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในปัจจุบัน หัวข้อเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กลายเป็นปัญหาสำคัญที่หลายๆ ฝ่ายจับตามองไปแล้ว
ดังนั้นนี่จึงอาจจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับหลายคนไม่น้อยเลย เมื่อล่าสุดนี้เองนักวิทยาศาสตร์ก็เพิ่งจะออกมาเปิดเผยว่า
คนจากยุค “เบบี้บูมเมอร์” (ผู้เกิดในช่วงปี 1946–1961) โดยเฉพาะในประเทศเจริญแล้วนั้น ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาถึง 33% ของคนทั้งหมด ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มช่วงอายุที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมามากที่สุดไป
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบความจริงข้อนี้จากการศึกษา รอยเท้าก๊าซเรือนกระจกของครัวเรือนใน 27 ประเทศ ตั้งแต่ช่วงปี 2005 ถึง 2015 และพบว่าในช่วงเวลานี้โดยรวมแล้วมนุษย์จะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง
โดยกลุ่มผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีลดการปล่อยมลพิษต่อปีลง 3.7 ตัน กลุ่มผู้ที่มีอายุ 30 ถึง 44 ลดการปล่อยมลพิษต่อปีลง 2.7 ตัน และกลุ่มผู้ที่มีอา 45 ถึง 59 ลดการปล่อยมลพิษต่อปีลง 2.2 ตัน
อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี กลับสามารถลดการปล่อยมลพิษต่อปีลงเพียง 1.5 ตัน
ทำให้พวกเขามีอัตราส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกพุ่งขึ้นไปถึง 33% จากที่ช่วงก่อนปี 2005 พวกเขาจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียงราวๆ 25%
ที่น่าสนใจคือคนกลุ่มเบบี้บูมเมอร์นั้น ดูจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมามากกว่าพ่อแม่ของพวกเขา (“Silent Generation” หรือ ผู้เกิดในช่วงปี 1928-1945) เสียอีก
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์มองว่าอาจเป็นเพราะคนรุ่นเก่ากว่าเคยมีประสบการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกเขาจึงเป็นคนประหยัดระมัดระวังการใช้ทรัพยากร ในขณะที่ “ผู้สูงอายุรุ่นใหม่” ใช้เงินมากขึ้นกับบ้าน การใช้ไฟฟ้า และอาหาร
นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องออกมาบอกเลยว่า รัฐบาลของหลายประเทศอาจต้องมีวิธีการบางอย่างเพื่อช่วยลดการใช้ก๊าซเรือนกระจกของคนกลุ่มนี้ลงอีกขั้นแล้ว หากพวกเขาต้องการจะช่วยเหลือโลกของเราอย่างจริงจัง ก่อนที่มันจะสายเกินไป
ที่มา
www.nature.com/articles/s41558-022-01302-y.epdf
www.iflscience.com/environment/boomers-in-rich-countries-cause-33-percent-of-greenhouse-emissions/
www.studyfinds.org/baby-boomers-climate-change/