ว่ากันว่าของทุกชิ้นบนโลกนี้สามารถมีคุณค่าต่างกันได้แล้วแต่ความต้องการของคน เพราะต่อให้เป็นทองคำแท้ที่มีค่าแค่ไหน หากคุณติดอยู่ในทะเลทรายไร้ผู้คน มันก็คงไม่มีค่าเท่ากับน้ำขวดหนึ่ง
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วคุณคิดว่าคนเราจะให้คุณค่ากับ “ความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย” มากมายแค่ไหนกัน? เพราะเมื่อล่าสุดนี้เอง ศิลปินชาวอิตาลีคนหนึ่งก็เพิ่งจะ ขายความว่างเปล่าไปได้ในราคากว่าครึ่งล้านเลย!!
เรื่องราวในคราวนี้เกิดขึ้น กับคุณ Salvatore Garau ศิลปินชาวอิตาลีผู้ซึ่งผุดความคิดสุดบรรเจิด ทำ ประติมากรรมขนาด 150 x 150เซนติเมตร ชื่อ “I Am” ออกมาประมูลขาย
โดยผลงานของเขานั้น มีจุดเด่นอยู่ที่มันไม่เพียงแต่จะมองเห็นด้วยตาเปล่าไม่ได้เท่านั้น แต่ยังไม่มีกลิ่น และจับต้องไม่ได้ด้วย เพราะงานประติมากรรม “I Am” ของเขานั้น ไม่มีตัวตน ไม่มีอะไรเลยนั่นเอง!!
แต่แม้ว่าผลงานชิ้นนี้จะไม่มีอะไรเลยก็ตาม เมื่อการประมูลผลงานเริ่มขึ้นขึ้นราคาของประติมากรรม “I Am” กลับดีดขึ้นไปถึง 12,000 ยูโร (15,000 หากนับร่วมค่าสิทธิ์การประมูลด้วย) ซึ่งตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ราวๆ 570,000 บาทเลย
นี่ทำให้หลายๆ คนแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะต่อให้มีคนประมูลผลงานนี้ไปเล่นๆ มูลค่าหลักแสนของมันก็ถือว่าเป็นอะไรที่สูงมากอยู่ดี
จนสำนักข่าวบางแห่งเองก็ถึงกับเปรียบเทียบการประมูลผลงานนี้กับสินค้าประเภท Non-Fungible Token (NFT) อย่างพวกสกินปืนในเกม หรือที่ดินบนโลกเสมือน ซึ่งทุกอย่างอาจไม่มีอยู่จริงด้วยซ้ำกันเลย
“ความสำเร็จของการประมูลนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า
ความว่างเปล่านั้นเป็นเพียงพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพลังงาน และแม้ว่าเราจะทำให้มันว่างเปล่าและไม่มีอะไรเหลืออยู่ก็ตาม
ตามหลักการความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์กที่ว่าความว่างเปล่าดังกล่าว ก็จะยังคงมีน้ำหนักในแบบของมันอยู่ดีดังนั้นมันจึงมีพลังงานที่จะเปลี่ยนเป็นอนุภาค ที่มีอยู่แม้ในตัวเรา!!
ในตอนที่ผมจัดแสดงประติมากรรมที่ไม่มีอะไรเลย พื้นที่แห่งนั้นจะรวบรวมปริมาณและความหนาแน่นของความคิดไว้
เกิดเป็นรูปร่างที่ต่างกันไป ซึ่งเกิดขึ้นจากแค่ชื่อผลงานที่ผมตั้งนั่นเพราะในท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่พระเจ้าก็เป็นสิ่งที่พวกเรามอบรูปร่างให้ ทั้งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลยไม่ใช่รึ?”
คุณ Salvatore Garau ระบุเกี่ยวกับผลงานของตัวเอง
ส่วนสำหรับคนที่ชนะการประมูลไปนั้น แท้จริงแล้วเราจะบอกว่าไม่ได้อะไรไปเลยก็คงจะไม่ถูกนัก เพราะเขาจะได้รับใบรับรองที่พิสูจน์ว่าเขาได้ซื้อผลงาน “I Am” กลับไปครอบครอง
และคุณ Salvatore Garau ก็บอกไว้ด้วยว่าผู้ชนะการประมูลควรเอาผลงานนี้ไปเก็บในห้องแบบพิเศษที่ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ โดยอาจไม่จำเป็นต้องมีระบบไฟ หรือระบบควบคุมสภาพอากาศด้วยซ้ำ
เพราะยังไงผลงาน “I Am” ก็เป็นสิ่งที่ไร้ซึ่งแก่นสารวัตถุใดๆ อยู่แล้ว