พ่อสุดเศร้า จัดงานศพให้ลูกโดนรถชนตาย จู่ๆ ลูกขับซาเล้งเข้ามา ตกใจ-เงิบกันทั้งงาน

เรื่องวุ่นๆ ครั้งนี้ เกิดขึ้นในจังหวัดบุรีรัมย์…

ระหว่างที่กำลังจัดงานศพให้กับ “นายสงัด” ที่ถูกรถชนตาย บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า จู่ๆ นายสงัดเองก็ขับรถซาเล้งเข้ามาในงานด้วยความงุนงง ว่าบ้านตัวเองจัดงานอะไร

พอเห็นรูปตัวเองอยู่หน้าโลง นายสงัดงง!!

ญาติงง!! แขกเหรื่องง!!

พ่อแม่ยิ่งงงไปใหญ่..  เอ๊า

แล้วมันเกิดอะไรขึ้น?

ย้อนกลับไปในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน คุณไพรัตน์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนคล้ายกับลูกชายตัวเอง โดนรถชนตายบนถนนเส้นหนึ่ง ของ อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์

ด้วยความที่ลูกชาย “นายสงัด” เป็นคนชอบดื่มเหล้า แล้วก็เดินริมถนนตอนเมา เขาก็เลยเร่งออกไปดูด้วยความตกใจ

ปรากฏว่า ศพที่ถูกรถชนตาย ใบหน้าเละไม่เหลือเค้าโครงเดิม แต่คุณพ่อบังเอิญจำได้ว่าลูกชายมีรอยสักที่แขนซ้าย และนั่นคือลูกชายตัวเองแน่ๆ

ตำรวจก็เลยประสานงานให้คุณพ่อ จัดแจงไปรับศพลูกชายกับโรงพยาบาลตามขั้นตอน

หลังจากนั้น ผู้ใหญ่บ้านก็มาช่วยดำเนินการเรื่องงานศพ ตั้งแต่การยืมโลง การจัดงาน การเตรียมเลี้ยงแขก นิมนต์พระมาสวดงานศพ จนถึงการไปตดต่อแจ้งตาย

ภายหลังได้เงินฌาปนกิจเบื้องต้นมา 70,000 บาท ก็เอาไปใช้จ่ายในการเตรียมงานต่างๆ นั่นเอง

แล้วปรากฏว่า วันที่ 2 มิถุนายน  ช่วงกลางวัน นายสงัดก็ขับรถซาเล้งเข้ามา ชาวบ้านบางส่วนก็แตกตื่นกันใหญ่ คิดว่าผีหลอกกันกลางวันแสกๆ

ส่วนนายสงัด ก็คิดว่าบ้านตัวเองจัดงานพิเศษอะไร ก็ยิ่งตกใจมากที่รู้ว่าเป็นงานศพตัวเอง

เขาบอกว่าที่หายจากบ้านไปนั้น ก็ไปนั่งเล่นอยู่บ้านเพื่อน ไม่คิดว่าจะบังเอิญเกิดเหตุการณ์คนเสียชีวิต ที่มีลักษณะท่าทางคล้ายกับตนเองแต่อย่างใด

ฝั่งผู้เป็นพ่อ ก็รู้สึกโล่งใจที่ลูกชายไม่เสียชีวิต งานศพดังกล่าวจึงเปลี่ยนจากการสวดศพ เป็นการทำบุญต่อชีวิตให้กับลูกชายของตนเองแทน

แล้วนั่นศพใครล่ะ?

ปรากฏว่า อีกหมู่บ้านหนึ่ง ก็มีชายหนุ่มที่ชื่อว่า “นายปองพล” หายตัวไป ซึ่งพี่สาวก็กำลังตามหาน้องชายว่าหายไปไหน พอเธอเห็นมีคนแชร์ข่าวรถชนคนตายผ่านเฟซบุ๊ก อ่านข่าวดูตำหนิต่างๆ ก็คล้ายกับน้องชายของตนเอง

เธอจึงไปติดต่อที่โรงพยาบาล  เพื่อขอรับศพ โดยระบุตำหนิต่างๆ บนร่างกาย ก็ได้คำตอบว่ามีคนรับศพไปแล้ว ก็ยิ่งงงไปใหญ่

พอมาทราบทีหลังว่าศพดังกล่าวคือศพที่อีกบ้านรับไปผิด ก็ได้ทำการติดต่อขอรับศพของปองพล อย่างถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยเช่นกัน

งานนี้เรื่องอลวนก็จบลงได้ด้วยดี.. แต่ยังมีอีกคนที่น่าจะต้องปวดหัวก็คือ “ผู้ใหญ่บ้าน” ที่เหนื่อยจากติดต่องานศพแล้ว ยังต้องมาช่วยแก้เอกสารต่างๆ กลับให้เป็นเหมือนเดิมด้วยนี่สิ!!

ที่มา:

https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2106881

https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6432632

www.one31.net/news/detail/46667